TrueID
TH
รีเซต
ผลการค้นหา “War of Y” - ทรูไอดี
ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
อ่าน
หยิ่น-วอร์ ชวนแฟนคลับญี่ปุ่นจิ้น ใน Yin&War 1st Fan Meeting in Japan 2023
ไม่ต้องรอนาน แฟนคลับแดนปลาดิบ ได้ฟิน เมื่อบริษัท คิราห์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ยักษ์ใหญ่เรื่องจัดงานคอนเสิร์ตจากญี่ปุ่น ประกาศ YinWar 1st Fan Meeting in Japan 2023 งานนี้จะได้เจอ 2 หนุ่ม หยิ่น อานันท์ หว่อง และ วอร์ วนรัตน์ รัศมีรัตน์ อย่างใกล้ชิด พร้อมพันธมิตร คุณยุทธนา นารี จาก บริษัท เอกซีอีโอ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด บริษัทเอเจนซี่ในไทย ที่จะร่วมนำเสนอข่าวความเคลื่อนไหว และอัพเดทให้แฟนๆ ได้ทราบกัน YinWar 1st Fan Meeting in Japan 2023 จะเป็นอีกเหตุการณ์สำคัญที่ 2 คู่จิ้นแถวหน้าของไทย หยิ่น อานันท์ หว่อง และ วอร์ วนรัตน์ รัศมีรัตน์ จะร่วมเดินทางประทับใจ ร่วมจำจดภาพและเสียงกับเหตุการณ์ที่จะไม่มีวันลืม แฟนคลับทุก ๆคน จะได้เจอ และใกล้ชิดกับทั้งคู่แบบเต็มอิ่ม 1.30 ชั่วโมง โดยงานจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 30 มีนาคม 2566 สถานที่จัดงาน Zepp Haneda(TOKYO) รอบเวลา 18:00 OPEN / 19:00 START ( 2023年3月30日(木) ) 初の日本でのファンミーティング「YinWar 1st Fan Meeting in Japan 2023」開催決定! 2023年3月30日(木) Zepp Haneda(TOKYO)18:00 OPEN / 19:00 START 最速抽選先行チケットはこちらから 👉🏻 https://stagecrowd.live/yinwarjapan/ 【受付期間】2023年1月20日(金) 12:00~2023年1月31日(火)23:59 #YinWarJapanFanMeeting #YinAnan #WarWanarat #YinWar ความสนุกรอพร้อมทุกกำลังใจ เตรียมส่งใจให้แฟนคลับ #หมูยอ แล้วพบกันในช่วงอากาศที่กำลังจะเริ่มอบอุ่น
ข่าวบันเทิง • 20 ม.ค. 66
อ่าน
แฟนๆ แชร์โมเมนต์จากงาน WAR's 1st BD FAN MEET : You Know What I Like แรงขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์
ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับงานแฟนมีตของหนุ่มฮอต "วอร์ วนรัตน์" ซึ่งงานมีชื่อว่า "WAR's 1st BD FAN MEET : You Know What I Like" โดยจัดขึ้นวานนี้ (6 สิงหาคม 2565) ณ MCC HALL THE MALL LIFESTORE NGAMWONGWAN ซึ่งมีแฟนคลับเข้าร่วมงานแฟนมีตในครั้งนี้กันเป็นจำนวนมาก โดยภายหลังจากจบงานแฟนมีต "WAR's 1st BD FAN MEET : You Know What I Like" ไปแล้วนั้น เหล่าแฟนคลับก็ได้ร่วมแชร์โมเมนต์ความประทับใจต่างๆ ที่เกิดขึ้นในงานฟนมีตครั้งนี้กันอย่างมากมายบนทวิตเตอร์ จนทำให้แฮชแท็ก#Wars1stBDFanmeet มาแรงติดเทรนด์ทวิตเตอร์ไปแล้ว อ่านข่าวบันเทิงวันนี้ที่เกี่ยวข้อง : แรงทั้งเทรนด์ไทยเทรนด์โลก! วอร์ วนรัตน์ กับแฟนมิตครั้งแรก การรอคอยของแฟนคลับ แฟนคลับ "วอร์ วนรัตน์" ตื่นเต้นหลังเปิดขายบัตร #Wars1stBDFanmeet วันแรก เปิดใจ "วอร์ วนรัตน์" หลังเคยคิดลาวงการ ด้าน "หยิ่น อานันท์" เผยความรู้สึกเมื่อรู้เรื่องนี้? กดเลย community แห่งความบันเทิง 📸เมาท์ข่าวดารา กับเจ๊รุงรังขังรวมทั้งข่าว หนัง ซีรีส์ 🍿ละคร ดนตรี และศิลปินไอดอล 😍ที่คุณชื่นชอบ บนแอปทรูไอดี
ข่าวบันเทิง • 7 ส.ค. 65
อ่าน
เปิดตัวได้แล้ว - Yin War : เพราะรัก ถึงอยากให้เธอเปิดใจมาเป็นแฟนกัน
บทนำเพลง "เปิดตัวได้แล้ว" ของ Yin War เป็นเพลงที่สื่อถึงความปรารถนาในความรักและความตั้งใจที่จะเปิดใจให้กับคนที่คุณรัก ในบทความนี้ ผู้เขียนจะพาผู้อ่านทุกท่านมาอ่านรีวิวบทเพลง "เปิดตัวได้แล้ว" ของ Yin War กันครับ ติดตามอ่านในบทความนี้ได้เลยครับการเล่าเรื่องในบทเพลงเพลง "เปิดตัวได้แล้ว" ของ Yin War มีแก่นเรื่องเกี่ยวกับความรักและความปรารถนาที่จะเปิดใจให้กับคนที่คุณรัก มันสื่อถึงความตั้งใจที่จริงจังและความอาลัยในความรัก คำร้องของเพลงนี้ชัดเจนและเนื้อหาของมันเปิดเผยถึงความปรารถนาในความสัมพันธ์ท่อนเพลงที่ชอบใครก็คอยมาทัก คอยมาซักนิเพื่อนก็คอยมาซ้ำ คอยมาย้ำอีกฉันเลยต้องมาถาม ต้องมาถามสิแล้วเมื่อไหร่ เธอเองจะยอมมาบอกรักผู้เขียนชอบเพลงท่อนนี้มากที่สุด เพราะ ท่อน "ใครก็คอยมาทัก คอยมาซักนิ" บอกเล่าความรู้สึกความอยากรู้สึกความรักและความปรารถนาที่อยากให้คนที่เรารักเปิดใจมาเป็นแฟนกัน พร้อมทั้งความปรารถนาที่อยากจะเปิดใจมาเป็นแฟนกัน มันสร้างความรู้สึกของความสดใสและความร่าเริงในความรัก ถ้าคุณชื่นชอบเพลงที่มีความรักและความรื่นเริง คุณอาจจะหลงรักกับเพลงนี้และความคิดถึงความรักส่วนท่อน "เพื่อนก็คอยมาซ้ำ คอยมาย้ำอีก" บอกเล่าความรู้สึกที่ความปรารถนาที่เข้มแข็งในการเริ่มความรัก มันเล่าถึงความอยากรู้สึกความรักและความต้องการให้คนที่เรารักเปิดใจและรับความรักของเรา ความเข้าใจและความรักที่แท้จริงเป็นส่วนสำคัญของเนื้อหาของเพลงนี้โดยเฉพาะท่อน "แล้วเมื่อไหร่ เธอเองจะยอมมาบอกรัก" บ่งบอกถึงอารมณ์ความรู้สึกของความรักและความปรารถนาอย่างน่ารักและสดใส ถ้าคุณชื่นชอบเพลงที่มีความอารมณ์และดนตรีที่มีอารมณ์ดี คุณอาจจะหลงรักกับเพลงนี้และความรู้สึกที่มันสร้างขึ้นให้คุณในเรื่องความรักและความปรารถนาที่มีความหวังในความสำเร็จ เนื้อเพลงเล่าเรื่องนำเสนอได้เป็นอย่างดีเสน่ห์ดนตรี และเอ็มวีเสน่ห์ของดนตรี คือ ดนตรีในเพลงนี้มีลักษณะที่เพราะและนุ่มนวล มันมีการใช้เสียงกีตาร์และสแกนเพื่อสร้างบรรยากาศของความรักและความปรารถนานำอารมณ์ของคนฟังไปตามบทเพลง และ เสน่ห์ของเอ็มวี บอกเล่าเรื่องราวผ่านฉากของความจริงจังในความรัก คุณอาจจะหลงรักกับเพลงนี้และความรู้สึกที่มันสร้างขึ้นในเรื่องความรักและความปรารถนาที่จริงใจสรุปส่งท้ายเพลง "เปิดตัวได้แล้ว" ของ Yin War เป็นอีกหนึ่งบทเพลงที่มีความไพเราะผ่านความปรารถนาในความรักและความตั้งใจที่จะเปิดใจให้กับคนที่คุณรัก มันสร้างความรู้สึกของความรักและความปรารถนาที่จริงจังให้กับผู้ฟังได้เป็นอย่างดี ท่านผู้อ่านที่ยังไม่เคยฟัง เพลง "เปิดตัวได้แล้ว" ของ Yin War อย่าลืมไปติดตามฟังกันนะครับฟังเพลงเต็มได้ที่นี่เลยครับhttps://www.youtube.com/watch?v=E6Dqvaah0ikเครดิตรูปภาพภาพหน้าปก จาก WAR WANARATภาพที่ 1 จาก WAR WANARATภาพที่ 2 จาก WAR WANARATภาพที่ 3 จาก WAR WANARATภาพที่ 4 จาก WAR WANARATเครดิตวิดีโอเปิดตัวได้แล้ว - Yin War [Official MV] จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
Story • 24 ก.ย. 66
อ่าน
รักไม่รู้ตัว - Yin War : ความรักของฉันเต็มหัวใจอยากมอบให้เธอไปทั้งหมด
"รักไม่รู้ตัว" ของ Yin War เป็นเพลงที่สื่อถึงความรักและความตั้งใจที่ติดอยู่ในหัวใจของผู้ร้อง ต่อคนที่เขารักอย่างล้ำลึก ในบทความนี้ ผู้เขียนจะพาผู้อ่านทุกท่านมาอ่านรีวิวบทเพลง "รักไม่รู้ตัว" ของ Yin War กันครับ ติดตามอ่านในบทความนี้ได้เลยครับการเล่าเรื่องในบทเพลงเพลง "รักไม่รู้ตัว" ของ Yin War มีแก่นเรื่องเกี่ยวกับการเล่าเรื่องราวของความรักที่เต็มหัวใจและอารมณ์ต่อคนที่เรารัก นักร้องสื่อถึงความตั้งใจในการเริ่มต้นความรักที่มีความไม่แน่นอน การขยับขวางและความรักที่อุ่นใจในเนื้อเพลงนี้สร้างความเข้าใจและความรู้สึกของผู้ฟังต่อความรักที่ไม่รู้ตัวได้อย่างดีท่อนเพลงที่ชอบเพราะฉันรู้แล้วรักคืออะไร ไม่ต้องสงสัยฉันรักเธอมากเท่าไหร่ไม่เคยคิดว่าจะเป็นเธอที่เข้ามาอยู่ในฝัน ไม่มีใครก็ไม่เป็นไรขอแค่มีเธอกับฉัน ด้วยกัน ฉันหลงรักเธอแล้วไม่รู้ตัวผู้เขียนชอบเพลงท่อนนี้มากที่สุด เพราะ ท่อน "เพราะฉันรู้แล้วรักคืออะไร ไม่ต้องสงสัยฉันรักเธอมากเท่าไหร่" บอกเล่าความรู้สึกความรักที่มากมายภายในหัวใจ เนื้อความในท่อนนี้บอกความรักและความตั้งใจอย่างจริงใจต่อคนที่เรารัก ความรักที่ทรงจำและความตั้งใจที่สูงให้เข้าใจเธอส่วนท่อน "ไม่เคยคิดว่าจะเป็นเธอที่เข้ามาอยู่ในฝัน ไม่มีใครก็ไม่เป็นไร" บอกเล่าความรู้สึกที่มีความรักเข้ามาอยู่ในฝันของเรื่องราวความรัก เนื้อความในท่อนนี้เล่าการมอบให้คนที่เรารักได้อย่างสมบูรณ์และเต็มที่โดยเฉพาะท่อน "ขอแค่มีเธอกับฉัน ด้วยกัน ฉันหลงรักเธอแล้วไม่รู้ตัว" บ่งบอกถึงอารมณ์การหลงรักไปหมดทั้งหัวใจ เนื้อความในท่อนนี้ชี้ถึงการเป็นหวานใจและความรักที่แน่นอนที่เรียกให้ผู้ฟังรู้สึกถึงความคิดถึงและอารมณ์ของคนร้องเสน่ห์ดนตรี และเอ็มวีเสน่ห์ของดนตรี คือ ดนตรีโทนหวาน โดยเฉพาะเสียงของดนตรีของเพลงนี้มีสไตล์ที่นุ่มนวลและค่อนข้างสบายๆ ที่สร้างอากาศความอบอุ่นและโรแมนติก มีความออร่าที่มีสไตล์เดียวกันกับความรักที่น่าติดใจ และ เสน่ห์ของเอ็มวี บอกเล่าเรื่องราวผ่านฉากของการตกหลุมรักของหัวใจ เป็นสัญญะที่แสดงถึงการสื่อถึงความรักและความรู้สึกต่อเพลงสรุปส่งท้ายเพลง "รักไม่รู้ตัว" ของ Yin War เป็นอีกหนึ่งบทเพลงที่มีความไพเราะเล่าเรื่องผ่านดนตรีแนวหวาน โดยเพลงนี้เป็นอีกหนึ่งบทเพลงที่นำเสนอมุมมองการตกหลุมรักให้กับผู้ฟังได้เป็นอย่างดี ท่านผู้อ่านที่ยังไม่เคยฟัง เพลง "รักไม่รู้ตัว" ของ Yin War อย่าลืมไปติดตามฟังกันนะครับฟังเพลงเต็มได้ที่นี่เลยครับhttps://www.youtube.com/watch?v=qAYNCbxd9aMเครดิตรูปภาพภาพหน้าปก จาก YWPBภาพที่ 1 จาก YWPBภาพที่ 2 จาก YWPBภาพที่ 3 จาก YWPBภาพที่ 4 จาก YWPBเครดิตวิดีโอรักไม่รู้ตัว - Yin War [Official MV]เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Story • 3 พ.ย. 66
อ่าน
Google เอาใจแฟน Star Wars ปล่อยแอป AR ของ The Mandalorian
Google จับมือกับค่ายDisney และ Lucasfilm ปล่อยแอพ "The Mandalorian AR Experience" ให้เรานำตัวละครDin Djarin จากเรื่องThe Mandalorian มาปรากฎตัวในโลกแห่งความจริงในรูปแบบ AR โดยจุดเด่นของ The Mandalorian AR Experience จะไม่ได้นำแค่ตัวละครมาโชว์เพียงอย่างเดียว แต่ยังเปลี่ยนสภาพแวดล้อมในจุดที่ตัวละครนั้น ๆ ปรากฎตัวออกมาอีกด้วย เช่น หิมะตก หรือพื้นหิมะเป็นต้นตัวแอปใช้งานได้กับแพลตฟอร์ม Android ที่รองรับ5G และ ARCore Depth API เพียงอย่างเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตามตัวแอปไม่ได้ใช้งาน 5G แต่อย่างใด เชื่อว่าตัวแอปทำออกมาเป็นลูกเล่นสุดพิเศษของเครื่อง 5G มากกว่า ใครสนใจดาวน์โหลดตัวแอปได้ที่นี่ [คลิก]website:www.TNNTHAILAND.comfacebook :TNNONLINEfacebook live :TNN Livetwitter :TNNONLINELine :@TNNONLINEYoutube Official :TNNONLINEInstagram :TNN_ONLINETIKTOK :@TNNONLINEแหล่งที่มาGoogle Blog
TNN ช่อง16 • 24 พ.ย. 63
อ่าน
The Lord of the Rings: The War of the Rohirrim ศึกแห่งโรฮิริม
เรื่องย่อ The Lord of the Rings: The War of the Rohirrim ศึกแห่งโรฮิริม ชื่อเรื่อง The Lord of the Rings: The War of the Rohirrim ศึกแห่งโรฮิริมประเภท แอนิเมชัน / แอคชัน / ผจญภัย / สงครามให้เสียงพากย์โดย ไบรอัน ค็อกซ์, ไกอา ไวส์, ลุค ปาสควาลิโน, มิแรนดา ออตโตกำกับโดย เคนจิ คามิยามะกำหนดฉาย 5 ธันวาคม 2024ความยาว 130 นาที อ่านรีวิวหนังได้ที่นี่
เรื่องย่อหนัง • 30 พ.ย. 67
อ่าน
ผู้กำกับ God of War Ragnarok อยากทำ Castlevania
ถ้า Santa Monica Studio ได้ทำ Castlevania จะออกมาเป็นยังไง อีริก วิลเลียมส์ (Eric Williams) ผู้กำกับ God of War Ragnarok ให้สัมภาษณ์กับทาง Kinda Funny Games Spoilercast อีริกอยากทำ Castlevania มาก อยากให้แฟน ๆ ช่วยปลุกกระแสเพื่อให้มันได้เกิดขึ้นจริง “พวกคุณสามารถช่วยให้กับเกิดขึ้นได้นะ เพราะคุณกำลังรออยู่ ผมไม่รู้ว่าผมจะได้ทำอะไรต่อไป แต่ใครก็ได้ช่วยเอาลิขสิทธิ์ของ Castlevania มาให้ผมที พวกเราจะดีใจมาก ถ้าเกิดได้ทำจริง” อีริก บอก น่าสนใจมาก ถ้า Santa Monica Studio ได้ทำ Castlevania เดิมทีลิขสิทธิ์ของแฟรนไชส์นี้เป็นของ Konami เกมภาคใหม่ไม่ได้ออกมาหลายปีแล้ว ล่าสุดที่ออกมาให้แฟน ๆ เล่นได้ Castlevania: Lords of Shadow 2 ปี ค.ศ. 2014 หลังจากนั้นจะเป็นการนำภาคเก่ากลับมาขายใหม่ ย้อนกลับไปเมื่อเดือนตุลาคม ปี ค.ศ. 2021 VGC รายงานว่า Konami ได้ทำบางสิ่งเกี่ยวกับเกมที่ตัวเองดูแลอยู่ แหล่งข่าวเผยว่า Castlevania กำลังได้รับการรีบูตใหม่โดยสตูดิโอในประเทศญี่ปุ่น ยังข้อมูลอะไรใหม่ในตอนนี้ แม้ Santa Monica Studio พึ่งทำ God of War Ragnarok เสร็จ ปัจจุบันพวกเขามีอีกหลายโปรเจกต์ที่กำลังทำอยู่ God of War Ragnarok วางจำหน่ายแล้วให้กับ PlayStation 4 กับ PlayStation 5 และเป็นเกม Exclusive ที่ขายได้เร็วที่สุด ทำได้ยอดเกิน 5 ล้านชุดไปแล้ว อ้างอิง Video Games Chronicle
แบไต๋ • 25 พ.ย. 65
อ่าน
Qualcomm เปิดตัวชิป AR/VR ใหม่: Snapdragon XR2 Gen 2 และ AR1 Gen 1
Qualcomm ได้เปิดตัวชิปเซตรองรับแพลตฟอร์ม AR/VR รุ่นใหม่ เรียกว่า Snapdragon XR Gen 2 และ AR1 Gen 1 ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพของอุปกรณ์ Mixed Reality และ Virtual Reality ที่มีน้ำหนักเบาและมิได้เชื่อมต่อกับชุดแบตเตอรี่เสริมได้มากขึ้น และจะช่วยให้ผู้พัฒนาอุปกรณ์ AR/VR รายอื่นสามารถพัฒนาอุปกรณ์ที่มีความล้ำหน้าในตลาดเพื่อแข่งกับ Vision Pro ของ Apple ได้ เริ่มกันที่ Snapdragon XR Gen 2 ที่รองับอุปกรณ์ทั้งแบบ Mixed Reality และ Virtual Reality โดยมีจีพียู (GPU: หน่วยประมวลผลกราฟิก) ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นกว่ารุ่นก่อน 2.5x, มีประสิทธิภาพการประมวลผลด้วย AI ดีขึ้น 8x, รองรับกล้องและเซนเซอร์สูงสุด 10 ตัว บนอุปกรณ์, รองรับจอความละเอียด 3K จำนวน 2 จอ และติดตั้งหน่วยประมวลผลสัญญาณภาพ (ISP) ของ Spectra ทางด้าน Snapdragon AR1 Gen 1 นั้น จะเน้นไปที่อุปกรณ์ในลักษณะแว่นตาอัจฉริยะที่รองรับการแสดงเนื้อหา Mixed Reality เป็นสำคัญ โดยจะช่วยในการบันทึ่กและถ่ายถอดสดโดยตรงจากตัวแว่นตา อีกทั้งยังสามารถค้นหารูปภาพและแปลข้อความบนพื้นผิวจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชิปเซตทั้ง 2 ตัวนั้น ได้รับการพัฒนาร่วมกับ Meta บริษัทแม่ของ Facebook โดจะเปิดตัวพร้อมกับอุปกรณ์ในเครือของ Meta ในปี 2023 นี้ ยกตัวอย่างเช่น Meta Quest 3 ที่ได้รับการเปิดตัวไปแล้วพร้อมชิป Snapdragon XR 2 Gen 2 ในขณะที่แว่นตาอัจฉริยะอย่าง Ray-Ban Meta จะใช้ชิปเซต Snapdragon AR1 ส่วนผู้ผลิตอุปกรณ์ AR/VR รายอื่น ๆ จะสามารถพัฒนาอุปกรณ์ของตนโดยใช้ชิปเซตดังกล่าวได้ในปี 2024 ที่มา : GSMArena
แบไต๋ • 30 ก.ย. 66
อ่าน
รีวิวหนังสือสงคราม: A History of War in 100 Battles
สงครามไม่ใช่แค่เลือดและเหล็กกล้า หากแต่คือภาพสะท้อนของมนุษย์ “A History of War in 100 Battles” ไม่ใช่แค่หนังสือประวัติศาสตร์ แต่คือบันทึกของมนุษยชาติ ที่พาเราเดินทางข้ามยุคสมัย ผ่านเสียงปืน ดาบ หอก ปรัชญา และการตัดสินใจอันสั่นสะเทือนประวัติศาสตร์โลก หนังสือเล่มนี้บอกเล่าผ่าน “100 สมรภูมิ” ที่เปลี่ยนโฉมหน้าประวัติศาสตร์ในทุกภูมิภาค ทุกยุค และทุกความเชื่อ ไม่ว่าเราจะสนใจสงครามในฐานะบทเรียนทางยุทธศาสตร์ หรือมองมันเป็นเรื่องของจิตใจมนุษย์ หนังสือเล่มนี้ก็จะตอบโจทย์ทุกมิติได้อย่างน่าทึ่ง ภาพจำลองสมจริงจนรู้สึกเหมือนได้อยู่ในสมรภูมิ สิ่งที่ประทับใจที่สุดในเล่มนี้คือ “ภาพประกอบ” ที่ไม่ใช่แค่เพิ่มความสวยงาม แต่ช่วยเชื่อมโยงเราเข้ากับเนื้อหาได้อย่างแนบแน่น ทุกหน้ามีรายละเอียดภาพที่ประณีต มีทั้งภาพจำลองเหตุการณ์สำคัญ ภาพผู้นำในยุคโบราณ ภาพการแต่งกายของทหารยุคต่าง ๆ และแม้กระทั่งภาพถ่ายจริงจากช่วงสงครามโลก ซึ่งหาดูยากในหนังสือประวัติศาสตร์ทั่วไป บางภาพเป็นภาพวาดที่งดงามและเต็มไปด้วยพลังรบ บางภาพเป็นภาพขาวดำที่สะท้อนความเหน็ดเหนื่อยของทหาร บางภาพก็แสดงถึงยุทธการอันซับซ้อนที่เราอาจเคยเรียนในห้องเรียนแต่ไม่เคยเข้าใจอย่างถ่องแท้ จนได้เห็นภาพในเล่มนี้ เนื้อหาละเอียด แต่ไม่ซับซ้อน ถึงแม้จะเล่าถึงสงคราม 100 สมรภูมิ แต่หนังสือไม่ได้เขียนให้ยากหรือเข้าใจลำบาก ผู้เขียนใช้ภาษาที่กระชับ อ่านง่าย ไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานประวัติศาสตร์ก็สามารถเข้าใจและสนุกไปกับเนื้อหาได้ แต่ละสมรภูมิถูกบรรยายด้วยโครงสร้างที่เป็นระบบ: บริบทก่อนสงคราม ผู้นำหลักของแต่ละฝ่าย จุดเปลี่ยนในสงคราม ผลลัพธ์ และอิทธิพลต่อโลกในเวลานั้นและอนาคต สิ่งเหล่านี้ทำให้หนังสือมีความสมบูรณ์ ไม่ใช่แค่เล่าชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ แต่บอกเล่าความหมายของสงครามในแง่มุมของจิตใจและความเป็นมนุษย์ด้วย ธีมที่แตกต่างแต่เชื่อมโยงกัน ผู้เขียนไม่ได้จัดลำดับสมรภูมิตามเวลา แต่เลือกที่จะใช้ “ธีม” ในการเล่าเรื่อง เช่น สมรภูมิที่แสดงถึง “ความกล้าหาญท่ามกลางไฟสงคราม” หรือ “ความคิดสร้างสรรค์ทางยุทธศาสตร์” ทำให้เราเห็นว่า แม้สงครามจะเกิดห่างกันหลายพันปี แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหลังชัยชนะหรือความพ่ายแพ้กลับคล้ายกันอย่างไม่น่าเชื่อ ธีมที่โดดเด่น เช่น ความเป็นผู้นำ (Leadership): แสดงให้เห็นว่าผู้นำเพียงคนเดียวสามารถเปลี่ยนทิศทางของประวัติศาสตร์ได้ การพลิกเกม (Against the Odds): การต่อสู้อย่างกล้าหาญเมื่อโอกาสเป็นศูนย์ นวัตกรรม (Innovation): เทคโนโลยีใหม่ กลยุทธ์ใหม่ เปลี่ยนผลสงครามทั้งยุค การหลอกลวง (Deception): ความฉลาดทางสงครามที่แสดงถึงด้านมืดของความคิด ความกล้าหาญ (Courage): การเสียสละเพื่อบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า ความแม่นยำแห่งเวลา (In the Nick of Time): ความบังเอิญที่กลายเป็นปาฏิหาริย์ในประวัติศาสตร์ ผู้นำและทหาร: ตัวละครที่ไม่ใช่แค่ชื่อ สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นคือ “การให้ตัวตนกับผู้นำ” ไม่ว่าจะเป็น Alexander the Great, Napoleon, Genghis Khan, หรือ Churchill — หนังสือเล่าเรื่องของพวกเขาอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่โอ้อวด ไม่บิดเบือน แต่ก็ไม่ลดทอนความยิ่งใหญ่หรือความผิดพลาด ในขณะเดียวกันก็ไม่ลืมพูดถึง “ทหารชั้นล่าง” ผู้แบกปืนในสนามรบ คนที่ไม่มีชื่อในตำราเรียน แต่เป็นฟันเฟืองที่ทำให้ชัยชนะเกิดขึ้น การบอกเล่าแบบนี้ทำให้ผู้อ่านสัมผัสได้ถึง “หัวใจของสงคราม” ไม่ใช่แค่กลยุทธ์ แต่คือความเป็นมนุษย์ที่ต่อสู้เพื่อบางสิ่งบางอย่าง ✅ เหมาะกับคนทั่วไปที่อยากรู้เรื่องสงครามในมุมมองที่เข้าใจง่าย ✅ ภาพประกอบสมจริง สวยงาม และหลากหลาย ทั้งภาพจำลอง ผู้นำ และภาพจริง ✅ เนื้อหาครบถ้วน กระชับ และอ่านสนุก ✅ โครงสร้างเป็นระบบ อ่านเป็นตอน ๆ ได้ ไม่ต้องอ่านเรียง ถ้าคุณกำลังมองหาหนังสือที่เล่าถึงประวัติศาสตร์สงครามได้อย่างมีพลัง สื่อสารง่าย และเต็มไปด้วยความหมาย A History of War in 100 Battles คือคำตอบที่ใช่ที่สุด นี่ไม่ใช่แค่หนังสือเรียนรู้เรื่องสงคราม แต่คือบทสะท้อนใจว่า “ทุกสมรภูมิ มีทั้งเลือด น้ำตา และความรัก” เป็นหนังสือที่ควรค่าแก่การมีไว้ในชั้นหนังสืออย่างยิ่ง ไม่ว่าคุณจะเป็นนักประวัติศาสตร์ นักกลยุทธ์ หรือแค่นักอ่านธรรมดาที่อยากเข้าใจโลกใบนี้มากขึ้น สามารถหายืมหนังสืออ่านได้ที่ หอสมุดกรุงเทพมหานครค่ะ เครดิตภาพถ่าย ถ่ายเองจากมือถือทุกภาพค่ะ ขอให้ทุกคนมีวันที่ดี ขอบคุณค่ะ :) เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Punnreviews • 9 ส.ค. 68
อ่าน
This war of mine เกมส์เอาตัวรอดจากสงครามที่สมจริง
ผมในฐานะผู้เขียนก็มีโอกาสได้พักผ่อน หรือหาข้อมูลการเขียนในหลายๆทาง รวมไปถึงการเล่นเกมส์ดด้วย โดยเกมส์ที่หยิบยกมาในวันนี้มีชื่อว่าเกมส์ This war of mine เป็นเกมส์เอาชีวิตรอดของพลเรือนแต่ละกลุ่มท่ามกลางสงครามที่โหดร้าย และทารุณด้วยความโหดร้ายของน้ำมือมนุษยืด้วยกันเอง*ในเกมส์จะมีกลุ่มผู้รอดชีวิตหลายกลุ่มซึ่งบางกลุ่มมีเด็กรวมอยู่ด้วยทำให้การเอาชีวิตรอดลำบากและท้าทายผู้เล่นมากขึ้นไปอีก*Cr.ภาพถ่ายจากคอมพิวเตอร์ผู้เขียนเอง จากที่ผู้เขียนกล่าวไปว่าเกมส์มีความสมจริงไม่ได้หมายถึงเชิงกราฟฟิคของภาพที่สวยงามเสมือนจริงแต่กลับเป็นบรรยากาศภายในเกมส์การใช้แสงสีเสียงซึ่งในเกมส์ได้ใส่ไว้อย่างพอเหมาะพอดีทำให้เราได้เห็นภาพตามว่าถ้าเราต้องเกิดเหตุการณ์สงครามกลางเมืองเช่นนี้จะต้องพบเจอกับความหดหู่ น่ากลัว เศร้าสร้อย ขนาดไหน*บรรยากาศสีหม่นหมองของหน้าจอเริ่มเกมส์ก็เปนจุดเริ่มนต้นและบ่งบอกความสิ้นหวัง และหดหู่ที่เกิดจากภาวะสงครามได้อย่างดีและชัดเจนมาก*Cr.ภาพถ่ายจากคอมพิวเตอร์ผู้เขียนเอง ผู้เขียนหลังจากเล่นเกมส์นี้ เลยได้รับบรรยากาศเหล่านี้อย่างเต็มที่ทำให้ได้รับรู้ถึงการเอาตัวรอดจากภาวะสงคราม ที่มีทั้งการแย่งชิงอาหาร ขโมย หรือต่อสู้เพื่อให้ตนเองรอดชีวิตไปได้ หรือแม้กระทั้งการคุ้ยขยะหาของประทังชีวิตก็ต้องทำ *ภาพตัวละครกำลังค้นขยะเพื่อหาสิ่งของจำเป็นต่อการดำรงชีพเท่าที่จะหาได้*Cr.ภาพถ่ายจากคอมพิวเตอร์ผู้เขียนเอง อีกข้อหนึ่งที่ทำให้เกมส์นี้สมจริงขึ้นมาคือการดูแลความรู้สึกซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะการดูแลเด็กเพราะเด็กมีความเครียดและกลัวได้ง่ายทำให้ผู้ใหญ่ต้องคอยดูแลเด็กให้ดีเสมอหรือแม้กระทั่งผู้ใหญ่ด้วยกันถ้าจิตใจแตกสลายจนรับไม่ไหวก็จะทำให้เกิดผลตามมา เช่นหนีออกไปตายข้างนอกที่พัก หรือฆ่าตัวตายเพราะทนความเจ็บปวดทางจิตไม่ไหว ทำให้การกระทำทุกอย่างในเกมส์ส่งผลกับตัวละครเปรียบเสมือนเป็นตัวเราที่เข้าไปพบเจอเหตุการณ์นั้นเองเลยทีเดียว*ตัวละครในเกมส์พยายามชวนเด็กเล่นเกมบางอย่างเพื่อป้องกันไม่ไห้เด็กเกิดความเครียดมากเกินไป*Cr.ภาพถ่ายจากคอมพิวเตอร์ผู้เขียนเอง ผู้เขียนได้เล่นเกมส์นี่้จนจบโดยใช้เวลา 40 วัน(ภายในเกมส์) ทำให้รับรู้ได้ถึงภาวะสงครามที่เกมส์ต้องการสื่อออกมาได้อย่างดีและทำให้เรียนรู้ได้เลยว่า สงครามไม่เคยทำให้ใครชนะ มีแต่การสูยเสียและทำให้ทุกอย่างเลวร้ายลงไป วันนี้ผุ้เขียนมาถ่ายทอดอารมณ์ของเกมส์ This war of mine ให้ผู้อ่านได้อ่านกัน ในตอนต่อไปเราจะไปดูถึงระบบเกมเพลย์ของเกมส์นี้ในส่วนต่างๆซึ่งมีอีกมากมายในตอนต่อไป
p.p.bang • 20 ธ.ค. 62
อ่าน
ผู้สร้าง God of War: Ragnarok เป็นแฟนเกมบนเครื่อง Famicom
เพิ่งจะวางขายไปหมาด ๆ สำหรับเกมฆ่าเทพ God of War: Ragnarok ของ Santa Monica Studios ที่ได้รับเสียงวิจารณ์ที่ดีและคาดว่าจะทำยอดขายถล่มทลาย แต่ใครจะเชื่อว่าผู้สร้างเกมภาพสวยและเนื้อหาค่อนข้างจริงจังจะเป็นแฟนเกมบนเครื่อง NES หรือ Famicom คอนโซล 8Bit ของปู่นิน โดยล่าสุดผู้สร้างเกม อีริก วิลเลียมส์ (Eric Williams) ได้ออกมาบอกถึงเกมที่เป็นแรงบันดาลใจและมีอิทธิพลต่ออาชีพของเขากับเว็บ IGN เปิดรายชื่อ 5 เกมคลาสสิกบน Famicon ที่เขาชื่นชอบในวัยเด็ก โดยเกมแรกคือ The Legend of Zelda ภาคแรก โดยเขาบอกว่าการเติบโตและชอบท่องป่าตั้งแต่เด็กทำให้เขาคุ้นเคยกับบรรยากาศน่าอัศจรรย์ในเกม Zelda เกมที่ 2 คือตำนานอย่าง Castlevania II: Simon’s Quest แม้จะได้รับเสียงวิจารณ์ในแง่ลบอยู่ แต่เขาชอบระบบ กลางวัน และ กลางคืน รวมทั้งความลับที่ซ่อนอยู่ในเกมรวมทั้งสัตว์ประหลาดในตำนาน ต่อด้วยเกมต่อยมวย Punch-Out!! ที่เขาชอบรูปแบบกลไกในการเล่นรวมทั้งความท้าทาย นอกจากนี้เขายังชอบเกมเบสบอล ของค่าย SNK อย่าง Baseball Stars ที่มีระบบการเล่นที่ซับซ้อนกว่าเกมกีฬาในยุคนั้น เพราะมีระบบเงินเดือนและการเก็บสถิติ ปิดท้ายกับ River City Ransom หรือที่คนไทยเรียกว่าเกม คุนิโอะ ที่ อีริก ได้ระบุว่ามันมีอิทธิพลต่อแนวทางการสร้างเกมในส่วนของการสร้างธีมการเป็นเด็กที่แข็งแกร่งในสนามเด็กเล่นที่มีทั้งอาวุธ นอกจากนี้ยังมีระบบเงินและการซื้ออาหารที่มันสมจริงมากในสมัยนั้น เกม God of War: Ragnarok วางขายแล้ววันนี้บน PS4, PS5 อ้างอิง
แบไต๋ • 15 พ.ย. 65
อ่าน
รีวิว Your Name (Kimi no Na wa): ความรักที่ข้ามเวลาและมิติ
Your Name (ชื่อในญี่ปุ่น: Kimi no Na wa) เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันญี่ปุ่นที่กำกับโดย มาโคโตะ ชินไค ซึ่งออกฉายในปี 2016 และกลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์แอนิเมชันที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น ภาพยนตร์นี้ไม่เพียงแต่สร้างกระแสในวงการภาพยนตร์โลก แต่ยังได้รับการชื่นชมจากทั้งนักวิจารณ์และผู้ชมทั่วโลก ด้วยเรื่องราวที่สวยงามและการผสมผสานของเทคนิคแอนิเมชันที่ล้ำหน้า รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! เนื้อเรื่องหลัก เรื่องราวของ Your Name ติดตามการพบกันของ "ทามะ" (นักเรียนหญิงจากเมืองชนบท) และ "มิตซูกิ" (นักเรียนชายจากโตเกียว) ที่เกิดการสลับร่างกันโดยไม่รู้สาเหตุ ทั้งสองคนไม่เคยพบกันมาก่อน แต่พวกเขากลับพบว่าพวกเขาสามารถสลับร่างกันได้ ซึ่งทำให้เกิดเหตุการณ์ที่เต็มไปด้วยความท้าทายและความเข้าใจในตัวตนของกันและกัน กระทั่งพวกเขาต้องค้นหาวิธีการกลับมาพบกันจริงๆ แอนิเมชันที่น่าทึ่ง หนึ่งในจุดเด่นของ Your Name คือการสร้างโลกในภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยสีสันสวยงามและการใช้เทคนิคการวาดภาพที่ละเอียด ทุกๆ ฉากของเมืองโตเกียวและหมู่บ้านชนบทถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ซึ่งทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกของภาพยนตร์จริงๆ ความสัมพันธ์และอารมณ์ ภาพยนตร์นี้ไม่เพียงแต่เป็นแอนิเมชันเกี่ยวกับการสลับร่าง แต่ยังมีการสำรวจความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งของตัวละครทั้งสอง โดยเฉพาะการเรียนรู้เกี่ยวกับการเข้าใจคนอื่นและการเผชิญหน้ากับปัญหาในชีวิต จุดสูงสุดของเรื่องคือความรักที่ลึกซึ้งที่ทั้งสองตัวละครต้องต่อสู้กับอุปสรรคหลายๆ อย่างเพื่อให้ได้กลับมาเจอกัน เหตุผลที่คุณไม่ควรพลาด Your Name ไม่ใช่แค่แอนิเมชันทั่วไป มันเป็นภาพยนตร์ที่สะท้อนเรื่องราวเกี่ยวกับการค้นหาตัวตนและความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง รวมถึงการสัมผัสกับความเป็นไปได้ที่ไม่ธรรมดาของเวลาและมิติ หากคุณยังไม่ได้ดู Your Name ถือว่าคุณพลาดประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาซื้อได้ง่ายๆ การรับชมจะเปิดมุมมองใหม่ให้กับคุณในเรื่องของความรักและเวลา บทสรุป หากคุณเป็นคนที่รักในแอนิเมชันที่ไม่เพียงแต่สวยงามแต่ยังมีความลึกซึ้งในเรื่องราว Your Name คือภาพยนตร์ที่คุณไม่ควรพลาด ด้วยความสามารถในการผสมผสานความรัก, ความเข้าใจ และการค้นพบตัวตนที่มาพร้อมกับแอนิเมชันที่สวยงามมากๆ Your Name จะทำให้คุณรู้สึกประทับใจและกลับมาคิดถึงมันอีกครั้งแน่นอน อ้างดิงจาก ภาพที่1 ภาพที่2 ภาพที่3 ภาพที่4 ปก ภาพปก โดย Otakus Brasil , CoMix Wave Films ~The Latest film "Suzume , IAMAG เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
GriffonZ • 25 พ.ย. 67
อ่าน
GALACTIC WARS อนิเมชั่น ไซไฟ ฝีมือเด็กไทยเจ้าของช่อง BikMCTH
คงได้เห็นทีเซอร์เปิดตัวกันไปบ้างแล้วสำหรับ Minecraft Short Animation Series GALACTIC WARS ผลงานสุดอลังการล่าสุดจากช่อง BikMCTH ครีเอเตอร์ภายใต้สังกัด Online Station ที่เคยสร้างเสียงฮือฮามาแล้วกับผลงาน พระธาตุลำปางหลวง และ,MISSION TO MARS ผ่านตัวเกมสุดฮิตแนว sand box อย่างเกมMinecraftและผลงานล่าสุดที่รับประกันความว้าว สุดตื่นตาตื่นใจที่รวบรวมเอากองยานเรือ และกองเรือรบ จากของแต่ละจักรวาล เช่น จักรวาล Star Trek จักรวาล Space Battleship Yamato จักรวาล Aoki Hagane no Arpeggio Ars Nova และ จักรวาลของ BikMCTH ที่จะมาปกป้องโลกและต่อสู้กับศัตรูที่ยากจะต่อกร จุดเริ่มต้นของซีรีย์ชุดนี้ ได้แรงบันดาลใจมากจาก บิ๊ก เจ้าของช่อง BikMCTH หลงไหลในการชอบดูหนังและอนิเมชั่นแนวไซไฟ สงครามอวกาศ เลยมีความสนใจที่อยากจะลองทำในสิ่งใหม่ ๆ ที่ต่างออกไปจากเดิม โดยซีรี่ส์ชุดนี้ บิ๊กตั้งใจอยากจะสื่อให้เห็นถึง ศัตรูของศัตรูก็คือมิตร ถึงแม้จะมาต่างจักรวาล แต่สิ่งที่เดียวที่ต้องปกป้องก็คือ บ้าน ของพวกเราเองในซีรีย์ชุดนี้ บิ๊กจะพาเราออกไปท่องจักรวาลเพื่อไปพบกับ เหล่าบรรดากองยานรบ และกองเรือรบต่างๆที่เต็มไปด้วยแสนยายุภาพที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่บ่งบอกที่มาของแต่ล่ะจักรวาลได้อย่างชัดเจนและ ซีรีส์ชุดนี้เราจะได้ดูกันตอนแรก ในช่วงกรกฎาคมนี้แน่นอน และจะมีมาให้ชมกันถึง 4-5 ตอน ด้วยคุณภาพสเกล 21:9 ความชัดระดับ4K ทำให้รู้สึกเหมือนได้ชมภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์กันเลยทีเดียว ที่มาพร้อมกับซาวด์ที่ผ่านกระบวนการความคิดโดยการใช้ธีมเพลงที่ต่างกันออกไปของแต่ละที่มาและเสียงเอฟเฟคเฉพาะยานแต่ละลำ ได้อย่างลงตัวที่สุด สำหรับใครที่เป็นแฟนช่อง BikMCTH อยู่แล้วเตรียมรอชมผลงาน GALACTIC WARS นี้ได้เลย และใครที่ชื่นชอบหลงใหลในเรือรบและยานรบบวกกับแนวไซไฟแฟนตาซีในอวกาศยิ่งต้องห้ามพลาด รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน และคราวนี้ Online Station จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเหล่าบรรดากองยานรบ และกองเรือรบต่างๆ แบบที่ไม่มีเจาะลึกแน่นอนยังไงก็ฝากติดตามผลงานซีรี่ย์ชุดนี้ที่รวมความประทับใจหลายๆอย่างของเหล่าบรรดายานรบและเรือรบ ส่วนใครที่ยังไม่เคยได้สัมผัสความอลังการของทุกๆผลงานที่ผ่านมาติตตามได้ที่ช่อง :https://bit.ly/OS_BikMCTHร่วมสัมผัสประสบการณ์ผจญภัยการข้ามกาแล็กซี่ครั้งนี้ไปด้วยกัน
TNN ช่อง16 • 20 มิ.ย. 65
อ่าน
God Of War คิมจุน วีรบุรุษกู้แผ่นดิน
God Of War คิมจุน วีรบุรุษกู้แผ่นดิน ออกอากาศทุกวันอังคาร-พุธ เวลา 21.00 น. ทางช่อง 5
เรื่องย่อละคร • 31 พ.ค. 58
อ่าน
[Review] God of War Ragnarök บทสรุปของเทพเจ้าสงคราม ในโลกตำนานนอร์ส
Kratos ที่น่าจะรอดชีวิตจาก Blade of Olympus อยู่ดี ๆ ก็มาโผล่ใน Midgard หลังจากที่ปล่อยให้ผู้เล่นต่างสงสัยในชะตากรรมของเขาว่าเป็นตายร้ายดียังไง God of War (2018) เป็นเกมที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการเล่าเรื่อง และมาตรฐานการทำเกมของ Sony Interactive Entertainment ได้เป็นอย่างดี จนได้รับรางวัล Game of the Year ในปีนั้นไป God of War Ragnarök คือเรื่องราวที่จะเข้ามาสานต่อฉากจบของภาค 2018 โดยจะเล่าเรื่องใน 3 ปีต่อมา ซึ่งแน่นอนว่าหากใครที่ไม่เคยเล่นภาค 2018 มาก่อน ก็จะไม่มีทางเข้าใจอะไรในภาค Ragnarök นี้ได้เลย และจะไม่สามารถปะติดปะต่อเนื้อเรื่องอะไรได้ ถึงแม้ตัวเกมจะมีวิดิโอย้อนหลังเล่าเรื่องราวในเกมภาค 2018 ให้เราฟัง แต่นั้นก็ไม่ได้ช่วยให้ผู้เล่นใหม่ ที่ไม่เคยเล่นมาก่อนจะเข้าใจมันได้อย่างเต็มที่ สำหรับส่วนตัวผมแล้วนั้นมองว่า God of War Ragnarök เป็นเกมที่หาจุดยืนของตัวเองไม่ได้ ระหว่างสุดยอดหนังฮอลลีวูด หรือสุดยอดวิดิโอเกม ความรู้สึกของผมตลอด 30 ชั่วโมงหลังเล่นจบ ผมกลับรู้สึกเหมือนได้ดูหนัง Marvel สักเรื่อง แต่เป็นหนัง Marvel ที่มีปัญหาในการเล่าเรื่อง และบทสรุปของเรื่องราวที่ไม่น่าประทับใจสักเท่าไรนัก Story God of War Ragnarök จะเล่าเรื่องต่อจากภาค 2018 ใน 3 ปีให้หลัง หลังจากการตายของ Baldur ทำให้ทั้ง 9 อาณาจักรตกอยู่ใน Fimbulwinter ซึ่งเป็นเหมือนโหมโรงของ Ragnarök ตามคำทำนายของยักษ์ที่เตือนถึงวันสิ้นโลก ที่ผู้คนจะล้มตาย และ Asgard จะล่มสลาย พร้อมกับการตายของ Odin Kratos ที่ยังคงใช้ชีวิตอยู่เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือพยายามเป็นพ่อให้ดีขึ้นสำหรับลูกชายของเขา Atreus ที่หลังจากได้รับรู้ความจริงว่าตัวเองถูกพวกยักษ์เรียกว่า Loki ตลอดเวลาที่ผ่านมาพวกเขาได้หลบหนีการตามล่าของ Freya ที่เธอก็ยังคงโกรธแค้น Kratos ที่ไปฆ่าลูกชาย (Baldur) ของเธอ แน่นอนว่าสิ่งที่ Kratos ทำได้ก็คือพยายามหลบหนี และเลี่ยงที่จะต่อสู้กับ Freya มาตลอด เพราะเขาไม่อยากฆ่าเธอ เพราะเธอเคยช่วยชีวิต Atreus เอาไว้ เรื่องราวของภาคนี้หลัก ๆ จะเริ่มจากที่ Odin และ Thor ได้มาเคราะประตูบ้านของ Kratos และมาเสนอทางออกแบบสันติวิธีให้ เนื่องจากว่า Baldur เองก็เป็นลูกชายของ Odin และน้องชายของ Thor โดยสันติวิธีของ Odin ก็คือ Atreus จะต้องเลิกตามหา Tyr เทพเจ้าแห่งสงคราม หรือก็คือ God of War ของโลกนี้ (Norse) และพวกเขาก็จะไม่มายุ่งอะไรกับ Kratos และลูกชายของเขาอีกตลอดไป แน่นอนว่ามีหรือคนอย่าง Kratos จะยอมตอบตกลง ถึงแม้ตัวเขาเองจะไม่รู้เรื่องเลยว่าลูกชายเขา พยายามตามหาตัว Tyr มาตลอด แต่เขารู้สึกแปลก ๆ ว่าคนอย่าง Odin ถึงกลับลงมาให้ข้อเสนอแบบนี้ หลังจากที่ตัวเขาฆ่าลูกชายของเขาไป มันจึงต้องมีอะไรบางอย่างแน่นอน และนี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวใน God of War Ragnarök ที่ Kratos และ Atreus จะได้ออกผจญภัยกันไปใน 9 อาณาจักรอีกครั้ง จนกระทั่ง ทุกอย่างฟังดูดี และเริ่มต้นด้วยดี 3-4 ชั่วโมงแรกตลอดการเล่น ผมรู้สึกดีกับสิ่งที่เกมได้นำเสนอ การที่เราได้พบเจอกับสหายเก่า และการเดินทางไปในสถานที่เดิม เพิ่มเติมคือจุดหมายใหม่ ๆ และปริศนาหลาย ๆ อย่างที่ตัวเกมภาคที่แล้วได้ทิ้งเอาไว้มากมาย ผมรู้สึกว่าเราน่าจะได้คำตอบในภาคนี้ มันทำให้ผมตื่นเต้นเป็นอย่างมาก แต่สุดท้ายแล้วมันก็มีจุดขัดใจในหลาย ๆ จุด ทำให้สรุปแล้วผมกลับไม่ได้อะไรเลยหลังจากเล่นมาจนจบ และพูดตามตรงว่าค่อนข้างผิดหวัง ตัวเกมค่อนข้างมีปัญหาในการเล่าเรื่อง แต่ต้องบอกก่อนเลยว่า ผมเข้าใจ Story Pacing ของมันดีสำหรับ God of War เอาจริง ๆ แล้วจุดเปลี่ยนของมันก็แสดงให้เห็นในภาค 2018 แล้วว่าเกมมันจะมาในทางนี้ แต่ปัญหาของภาค Ragnarök ก็คือการยืดเรื่องแบบไม่จำเป็น หลาย ๆ ฉาก ถูกใส่เข้ามาแบบเหมือนต้องการจะสื่อและสร้างความสัมพันธ์ครอบครัว ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันควรจะจบไปได้แล้วในภาค 2018 ไม่เข้าใจว่าตลอด 3 ปีที่ผ่านมา (ในเกม) Atreus ไม่ได้โตขึ้นเลยหรืออย่างไร และ Kratos เองก็ไม่ได้ปรับปรุงตัวเองขึ้นเลยหรือ ทำให้ผมถึงรู้สึกว่าเวลาในเกมมันไม่ได้ผ่านมานานเลย ทั้ง ๆ ที่ 3 ปี (ในเกม) มันเป็นเวลาที่นานมาก ๆ และตัวละครเหล่านี้ควรจะโตขึ้นมากกว่านี้แล้ว หลังจากผ่านเรื่องราวอะไรด้วยกันมาตลอด หลาย ๆ ส่วนในฉากยืดเรื่องเหล่านี้ (รวมถึงความสัมพันธ์ครอบครัว) ควรจะเอาไปเล่าเรื่องที่มันน่าสนใจมากกว่านี้ โลกของตำนานนอร์ส มันมีเรื่องราวให้เล่ามากมายหลายรูปแบบ แต่สุดท้ายแล้วภาคนี้ก็ดันไปเน้นเรื่อง Ragnarök แทน ทั้ง ๆ ที่ตัวเกมมันมีโอกาสที่จะทำเป็นไตรภาค และมีเวลาให้ผู้เล่นได้ซึมซับโลกนี้มากกว่านี้ มันรู้สึกเหมือนกับผมที่กำลังดู A New Hope อยู่ดี ๆ แล้วก็ข้ามไป Return of the Jedi เลย ทั้ง ๆ ที่ควรดู Empire Strikes Back ก่อนแท้ ๆ ในส่วนของตัวละคร ตลอดทั้งเรื่องนั้นเราจะได้พบเจอกับเพื่อนใหม่ ๆ มากมาย แนะนอนว่าหนึ่งในนั้นก็คือ Tyr และก็มีอีกหลาย ๆ ตัว ซึ่งการมาของตัวละครใหม่เหล่านี้ ไม่มีมีความน่าสนใจอะไรเลย กลับกันผมรู้สึกว่าตัวละครใหม่ ๆ มันไม่มีความน่าจดจำอะไรเลย เหมือนอย่างจะใส่เข้ามาก็ใส่ตามบทของเนื้อเรื่อง แตกต่างจาก Mimir หรือ Freya ในภาค 2018 ที่ทำได้ดีกว่า หรือแม้แต่ตัวละครอย่าง Brok และ Sindri ที่ยังดูดี และมีมิติขึ้นมากกว่าตัวละครใหม่ด้วยซ้ำ สุดท้ายคือบทสรุปของเรื่องราว แน่นอนว่าผมพูดอะไรไม่ได้ เพราะมันจะเป็นการสปอยล์เนื้อหาหลักของเกม แต่พูดตามตรง ว่าผมไม่ค่อยโอเคกับบทสรุปแบบนี้เท่าไร แต่ไม่ใช่ว่ามันไม่ดี หรือไม่ถูกใจผมแต่อย่างใด แต่เพียงแค่ว่ามันรู้สึกว่า God of War ไตรภาคดั้งเดิมนั้น ทำได้ดีกว่ามากหลายเท่าเลยทีเดียว นอกจากเนื้อเรื่องหลักแล้ว ตัวเกมก็จะมีเควสรองให้ทำตลอดทั้งเกม โดยมันจะมาในรูปแบบ “คำขอ” ของเหล่า NPC ภายในเกมตามอาณาจักรต่าง ๆ ที่เราเลือกจะไปหรือไม่ไปก็ได้ หรือเราอาจจะกลับมาทำที่หลังก็ยังได้ ในส่วนนี้มันจะช่วยขยายเรื่องราวของทั้ง 9 อาณาจักร ออกไปในรูปแบบต่าง ๆ ที่มีทั้งน่าสนใจมาก ๆ และไม่น่าสนใจเลยก็มี และมีอยู่หลายเควสรองเลยทีเดียว ที่มันน่าสนใจมาก ๆ และถูกควรเอาใส่เข้ามาอยู่ในเนื้อเรื่องหลักเสียด้วยซ้ำไป มันเป็นเรื่องที่ถ้าไม่เล่า เราก็อาจจะไม่เข้าใจตัวละครตัวนั้นไปเลย กลับกันในเนื้อเรื่องหลักดันเสียเวลาไปกับอะไรหลาย ๆ อย่างมากจนเกินความจำเป็น และมันให้ความรู้สึกเหมือนพยายามเข็นเราขึ้นไปบนภูเขาขนาดใหญ่ เพื่อที่จะให้มันจบเกมสักที และนี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ที่ผมดันรู้สึกว่าเควสรอง มันดันน่าสนใจกว่าเนื้อเรื่องหลัก (ครั้งสุดท้ายก็น่าจะเป็น The Witcher 3) เป็นเรื่องน่าแปลกใจ ที่ตลอดทั้งเกมเรากำลังพูดถึง Ragnarök หรืออาณาจักรอย่าง Asgard กันอยู่ แต่ผมดันรู้สึกว่าอาณาจักรอย่าง Vanaheim หรือ Alfheim นั้นมันน่าสนใจมากกว่า และทำเอาผมใช้เวลาอยู่ที่ 2 อาณาจักรนี้นานเป็นพิเศษ ทั้ง ๆ ที่ผมควรจะรู้สึกตื่นเต้นกับ Asgard มากกว่า ทุกอย่างเป็นไปเหมือนตอนแรกที่ผมได้กล่าวเอาไว้ในช่วงเปิดหัวข้อ ว่า 3-4 ชั่วโมงแรกของเนื้อเรื่อง ผมรู้สึกดีนะ มันสนุกตื่นเต้นน่าติดตามมาก ๆ แต่พอช่วงกลาง ๆ จนไปยันท้ายเกม ผมรู้สึกว่ามันยืดยาว ชวนง่วง และต้องเล่นไปหลับไปตลอดเลย ไม่เหมือนกับภาค 2018 หรือไตรภาคดั้งเดิม ที่ทำได้ดีกว่ามาก Gameplay โดยไม่ได้แตกต่างอะไรไปจากเดิมนัก แต่สิ่งที่ผมชอบอย่างนึงก็คือตัวเกมไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่า Kratos นั้นอ่อนแอลง หลังจากที่เราเหล่าผู้เล่นได้ฟาร์มเก็บสะสมค่าประสบการณ์ ชุด และอาวุธกันมาในภาค 2018 คราวนี้เปิดมาเราจะใช้อาวุธได้ทั้งสองแบบตั้งแต่เริ่มเลย และก็ไม่ต้องสอน Atreus แล้ว ใช้เวลาขัดสนิมกันนิดหน่อย ก็จะคุ้นชินกับมันได้ โดยไม่นาน ส่วนตัวผมเล่นในระดับความยาก Give Me No Mercy (จงอย่าปรานีข้า) เป็นระดับที่ยากรองลงจาก Give Me God of War ครับ (จงมอบก็อดออฟวอร์ให้ข้า) God of War Ragnarök เป็นเกม Action-adventure ที่มีความเป็น Open World นิด ๆ ผสมกับ RPG นิดหน่อย เหมือนกับภาคที่แล้วทุกอย่าง โดยตัวเกมจะมีศูนย์กลางที่ตัวละครหลัก ๆ อย่าง Kratos, Atreus, Mimir ใช้ชีวิตอยู่ รวมไปถึงตัวละครอื่น ๆ ตามเนื้อเรื่อง และ Gameplay หลัก ๆ ก็จะเหมือนกับภาคแรกเป๊ะเลย สองพ่อลูกออกสำรวจ 9 อาณาจักร พร้อมเรียนรู้เรื่องราวของโลกต่าง ๆ ณ สถานที่ไปเยือน ระบบต่อสู้ในเกมที่ยังเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือคราวนี้เราจะมีอาวุธใหม่ ที่นอกเหนือจาก Leviathan Axe และ Chaos Blade มาให้ใช้ด้วย ต้องยอมรับว่าตัวเกมในระดับ Give Me No Mercy นั้นมันสนุกมากเลย ด้วยการที่ส่วนตัวผมชอบเกมตระกูล Souls อยู่แล้ว มันทำให้ตลอดการเล่นนั้นเร้าใจ ยาก และท้าทายมาก ๆ ในภาคนี้นอกจาก Kratos แล้ว เราจะได้เล่นเป็น Atreus ด้วย และจะไม่ใช่ในช่วงเวลาสั้น ๆ เหมือนที่ได้เล่นเป็น Ellie ใน The Last of Us แต่จะได้เล่นอยู่นานเลย และจะสลับไปมาระหว่างสองพ่อลูกตลอดทั้งเกม รวมถึงตัว Kratos เอง ที่คราวนี้จะไม่ได้มีแค่ Atreus เป็นเพื่อนร่วมทางเพียงคนเดียวแล้ว แต่จะมีอีกหนึ่งตัวละคร ที่เราสามารถ Upgrade เพิ่มความสามารถต่าง ๆ รวมไปถึงชุด และอาวุธให้ตัวละครตัวนั้นได้เช่นกัน สิ่งหนึ่งที่ผมขัดใจอยู่ก็คือ บางครั้งการต่อสู้มันรู้สึกไม่ลื่นไหลสักเท่าไร โดยเฉพาะในช่วงที่ต้องการจะฟื้นฟูพลังชีวิตของตัวเอง เหตุผลอาจจะเป็นเพราะว่าผมเล่นในโหมด Give Me No Mercy มันจึงมีหลายช่วงที่เกือบตายตลอด อย่างน้อยก็อยากได้วิธีการฟื้นฟูพลังชีวิตที่สะดวกกว่านี้ แต่เมื่อเล่นไปจนได้พลัง Spartan Rage ที่ใช้แล้วจะฟื้นฟูพลังชีวิตได้ ก็ดีขึ้นเยอะเลย สิ่งที่ผมชอบที่สุดในส่วนของ Gameplay เลยก็คือการต่อสู้กับเหล่าบอสต่าง ๆ ที่เราจะต้องศึกษา Moveset การเคลื่อนไหว ลีลา ท่วงท่า ต่าง ๆ เพื่อหาจังหวะเข้าโจมตี และการใช้ธาตุของอาวุธต่าง ๆ ผสมผสานกัน และในเกมก็มี optional boss ให้ต่อสู้ค่อนข้างเยอะ ถึงแม้ว่ามันจะมีหน้าตาเหมือน ๆ กัน แต่รูปแบบการต่อสู้ก็จะแตกต่างกันไป มันจะมีอยู่หลายตัว ที่ทำเอาผมต้องกด Reload Checkpoint อยู่บ่อย ๆ ก่อนกลับเข้ามาสู้ใหม่ วนลูปไม่รู้จบ ราวกับเล่น Dark Souls อยู่ มันเป็นความสนุกที่ผมชอบมากเลย และรู้สึกดีที่ทีมงานเอาใจใส่ในจุดนี้ และมอบความท้าทายให้ผู้เล่นในหลาย ๆ รูปแบบ ทักษะ หรือการ Upgrade ความสามารถต่าง ๆ ของผู้เล่นยังคงเหมือนเดิม ไม่แตกต่างจากภาคที่แล้วมากนัก ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วผมผิดหวังนิดหน่อย เพราะเดิมทีผมอยากให้มันสามารถปรับแต่งได้มากกว่านี้ แต่ก็เข้าใจได้ เพราะเดิมทีแล้ว เกมมันมีข้อจำกัดในการเลือกใช้อาวุธของตัวละครอยู่ สุดท้ายแล้วการเพิ่มความสามารถของตัวละคร จะไปอยู่ที่การ Upgrade ชุดเกราะ และอาวุธของผู้เล่น รวมไปถึงการเปิดกล่องสมบัติแทน Graphics God of War Ragnarök ทำได้ตามมาตรฐานของเกม PlayStation 5 ทั่วไป นั่นหมายความว่า ไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก แต่ก็ทำได้ดีในระดับมาตรฐานของเกม PS5 จริง ๆ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าเกมยังคงต้องลงให้กับ PS4 ด้วย มันจึงเหมือนถูกดึงคุณภาพกราฟิกลงมาเล็กน้อย ซึ่งถ้าหากเราเอาไปเปรียบเทียบกับ Horizon Forbidden West นั้น เกมนั้นทำได้ดีกว่ามากเลยทีเดียว แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องชม คือทีมงานได้จัดเอาโหมดกราฟิกมาให้ปรับได้หลากหลายโหมดมาก ๆ เลย โดยเวอร์ชันที่ผมได้เล่น ก็คือเวอร์ชัน PS5 และมีมาทั้งหมด 6 รูปแบบด้วยกันครับ Favor Performance โหมด 1440-2160p แบบ dynamic resolution และ 60FPS Target Favor Performance + HFR โหมด 1440p แบบ Unlocked 60FPSFavor Performance + HFR + VRR เหมือนกันทุกอย่าง เพิ่มเติมคือใส่ระบบ VRR ของทีวีและมอนิเตอร์เข้ามาด้วย (ต้องรองรับ)Favor Quality โหมด 2160p Native 4K และ 30FPS Target Favor Quality + HFR 1800-2160p และ 40FPS TargetFavor Quality + HFR + VRR 1800-2160p Unlocked 40FPS และเพิ่ม VRR ของทีวีและมอนิเตอร์เข้ามาด้วย (ต้องรองรับ) จากการรีวิวในครั้งนี้ ผมเล่นครึ่งเกมแรกในแบบ Favor Performance + HFR ก่อนที่จะปรับมาเล่นในแบบ Favor Performance ช่วงกลาง ๆ ไปยันจบเกม และตลอดทั้งเกมผมเล่นผ่านหน้าจอมอนิเตอร์ 1440p 144hzโดยในส่วนของ Favor Performance + HFR นั้น ทำ Frame Rate ได้มากกว่า 60FPS จริง และรายละเอียดหน้าจอได้แสดงออกมาว่ารันได้ถึง 120FPS เลยในบางช่วง แต่ผมกลับไม่รู้สึกว่ามันรันถึง 1440p สักเท่าไร ในส่วนของ Favor Performance นั้นเห็นได้ชัดเลยว่ารันที่ 1440p แบบเต็ม ๆ ไม่ลด และรายละเอียดหน้าจอได้ Lock ไว้ที่ 60hz ตัวเกมเล่นได้ที่ 60FPS สบาย ๆ ไม่มีปัญหาอะไรครับ สิ่งหนึ่งที่ต้องชม คือทีมงานได้เก็บรายละเอียดของตัวละครออกมาได้ค่อนข้างดี รวมไปถึงแสงและเงาในบางฉากที่ทำออกมาได้ดีมาก ๆ จะมีติ ก็อาจจะเป็นเรื่อง Texture ที่มีบางจุดนั้นหยาบเล็กน้อย แต่ก็สังเกตได้ยาก สรุป God of War Ragnarök เป็นเกมที่ดี แต่ยังไม่ใช่เกมที่ยอดเยี่ยมที่สุด ผู้เล่นจะรู้สึกสนุกหากได้สัมผัสกับภาคก่อนมาแล้ว ในเกมนี้เราจะได้สานต่อเรื่องราวหลังจากฉากจบของ God of War (2018) การกลับมาของ Kratos และตัวละครอื่น ๆ อาจจะทำให้เราหายคิดถึงกันไปบ้าง แต่หลังจากนี้แล้ว เรื่องราวบทใหม่ของ God of War นั้นจะเป็นอย่างไร เราก็ยังไม่อาจทราบได้ ในส่วนของเนื้อเรื่องนั้น เป็นเหมือนที่ผมได้กล่าวเอาไว้ในช่วงต้น God of War Ragnarök มันไม่ควรจะเป็นบทสรุปเรื่องราวของ Kratos และ Atreus เลย เกมมันควรจะถูกทำให้เป็นไตรภาค เพราะว่าเดิมทีแล้ว God of War (2018) นั้น ถึงแม้ว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีแค่ไหน มันก็ไม่ควรจะถูกตัดบทให้จบลงในภาคนี้ “God of War Ragnarök มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนดู A New Hope อยู่ดี ๆ แล้วก็ข้ามไป Return of the Jedi เลย ทั้ง ๆ ที่ควรดู Empire Strikes Back ก่อน” หรือถ้าใครไม่เคยดู Star Wars มันก็เหมือนกับว่าเราได้ดูหนังภาคแรก หนังที่ปูทางเอาไว้อย่างดี พร้อมกับฉากจบที่จะแสดงให้เห็นถึงอนาคตของหนังไตรภาคใหม่ ที่สามารถต่อยอดและไปได้อีกไกลมาก ๆ และเมื่อภาคต่อเข้าฉาย กลับเป็นหนังที่เล่นสรุปเรื่องราวทั้งหมดภายใน 2 ภาค และเป็นการสรุปที่ไม่ได้คลายปมอะไรหลาย ๆ อย่างที่เราสงสัยเอาไว้ในภาคแรกอีกด้วย ปัญหาก็คือ ด้วยการที่ตัวเกมตัดสินใจมาจบบทใน Ragnarök นี้ ทำให้ผมรู้สึกเสียดายมาก เพราะในโลกตามตำนานนอร์สนั้นยังมีอะไรให้เล่าอีกเยอะมาก และตัวเกมสามารถต่อยอดตรงนั้นไปได้ในภาคต่อ ก่อนที่จะมาสรุปเรื่องราวใน Ragnarök และอาจจะเป็นบทสรุปที่ยอดเยี่ยมสำหรับ Kratos และ Atreus เองอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ตำนานของเทพเจ้าสงครามก็อาจจะมีอยู่ต่อไป และไม่แน่ในอนาคตเราก็อาจจะได้เห็นตำนานบทใหม่ ในโลกอื่น ๆ อีกก็เป็นได้ God of War Ragnarök นั้นวางจำหน่ายวันที่ 9 พฤศจิกายน 2022 นี้สำหรับ PlayStation 4/5 ตัวเกมที่ใช้รีวิวในครั้งนี้เล่นบนเครื่อง PS5 เป็นเวอร์ชันก่อนวางจำหน่าย
แบไต๋ • 4 พ.ย. 65
อ่าน
มหาวิบัติสงครามซี World War Z
เรื่องย่อมหาวิบัติสงครามซี World War Z ชื่อเรื่อง มหาวิบัติสงครามซี World War Zประเภท แอคชั่น / ระทึกขวัญผู้กำกับมาร์ค ฟอร์สเตอร์นำแสดงโดย มิรีลล์ เอโนส, แบรด พิตต์, ดาเนียลล่า เคอร์เทส, เจมส์ แบดจ์ เดล, ลูดี โบเคนความยาว 111 นาที
เรื่องย่อหนัง • 1 ก.ย. 63
อ่าน
นักพากย์ในเกม God of War Ragnarok มารับงานเพราะลูกชายร้องขอ
หลายครั้งคนในครอบครัวก็มีส่วนให้นักแสดงหลายคนได้รับบทบาทที่น่าจดจำ และล่าสุดกับการมาพากย์เสียงในเกมฟอร์มยักษ์อย่าง God of War Ragnarok ขอบคุณลูกชายของนักพากย์ที่โน้มน้าวให้พ่อของเขามารับบทบาทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเกม โดยเป็นเรื่องราวของ ริชาร์ด ชิฟฟ์ (Richard Schiff) ดาราจาก The West Wing ที่ได้มาจากส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ เอริก วิลเลียม (Eric Williams) ผู้กำกับ God Of War กับ Game Informer ระบุว่าเขาต้องการให้ ชิฟฟ์ มารับบทและพากย์เป็น โอดิน สุดยอดเทพสูงสุดของตำนานเทพเจ้านอร์ส โดยในตอนแรกเขาไม่คิดว่าชิฟฟ์จะยอมมารับบทนี้ และหลังจากทีมงานติดต่อ ชิฟฟ์ หลายครั้งแต่เขาได้บอกว่า ไม่มีความสนใจเกี่ยวกับวีดีโอเกม แต่แล้วครั้งหนึ่งระหว่างคุยทางโทรศัพท์ ชิฟฟ์ได้ลองถาม ลูกชายของเขาว่า God of War คืออะไร และลูกชายของชิฟฟ์ได้บอกพ่อให้ตอบรับในทันที เพราะเขาเป็นแฟนเกมตัวยง และในวันต่อมาชิฟฟ์ได้ตอบตกลง และนอกจากนี้ลูกชายของเขาได้เข้ามาร่วมชมค่ายเกมด้วย วิลเลียม เรียกเหตุการณ์นี้ว่าเป็น “ช่วงเวลาที่วุ่นวาย” เพราะเขาไม่คาดคิดว่าจะได้ร่วมงานกับนักแสดงฮอลลีวูดใน God of War Ragnarok และเขายังกล่าวขอบคุณลูกของชิฟฟ์ที่โน้มน้าวให้คุณพ่อมาร่วมงาน เกม God of War Ragnarok เป็นภาคที่สองและภาคสุดท้ายในของตำนานเทพเจ้านอร์ส หลังจากเหตุการณ์ในเกมภาคแรก Kratos และ Atreus จะต้องท่องไปในดินแดนทั้งเก้าเพื่อหาทางป้องกันไม่ให้เกิด Ragnarok ซึ่งเป็นจุดจบของโลกตามคำทำนายในตำนานเทพของชาวนอร์ส ภาคนี้ยังคงสานต่อความสนุกทั้งกราฟิกที่สวยงามและเรื่องราวที่โดดเด่น เกมวางขายแล้วบน PS4, PS5 อ้างอิง
แบไต๋ • 12 พ.ย. 65
อ่าน
PETA เรียกร้องให้ God of War Ragnarok มีโหมดไม่ทำร้ายสัตว์ภายในเกม
PETA (People for the Ethical Treatment of Animals) องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรด้านสิทธิสัตว์ของอเมริกา นอกจากจะดูแลสัตว์ในโลกจริงแล้ว PETA ยังดูแลสัตว์ในสื่ออื่น ๆ ด้วย ล่าสุดขอให้ Santa Monica เพิ่มโหมดไม่ทำร้ายสัตว์ใน God of War Ragnarok PETA ออกแถลงการณ์ผ่านทวิตเตอร์ ของให้ Santa Monica เพิ่มโหมดใหม่ที่ชื่อว่า PETA mode เป็นโหมดที่ผู้เล่นจะได้รับประสบการณ์ในการเล่น God of War Ragnarok โดยไม่ต้องทำร้ายสัตว์ภายในเกม พร้อมปล่อยวิดีโอสปอยล์การต่อสู้ของ Kratos, Atreus และ Garm สุนัขถูกล่ามโซ่อยู่ท่ามกลางอากาศหนาวเป็นเวลานาน Kratos กับ Atreus มาเจอเข้าในสถานที่อันน่าสลดใจ สุนัขต้องทนหนาว ไม่มีอาหารหรือน้ำเลย สุนัขทุกตัวควรมีบ้านที่เป็นสถานที่อบอุ่น แม้ว่าจะมีส่วนสูงถึง 60 ฟุตก็ตาม ถ้าคุณหนาว สุนัขก็หนาวเช่นกัน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ PETA ออกมาเรียกร้องอะไรแบบนี้กับเกม ล่าสุดพึ่งเรียกร้องให้ Ubisoft นำมินิเกมชนไก่ออกจาก Far Cry 6 God of War Ragnarok วางจำหน่ายแล้วให้กับ PlayStation 4 และ PlayStation 5 อ้างอิง Eurogamer
แบไต๋ • 21 พ.ย. 65
อ่าน
คอเกมสร้าง Mod โกนหนวดเคราของ Kratos ในเกม God of War Ragnarok
หลังจาก God of War เวอร์ชัน PS4 ที่วางขายในปี 2018 ตัวเอก Kratos จะดูมีอายุที่มาพร้อมหนวดเคราเต็มหน้า แต่หากคุณเล่นมานานในอดีต ภาคแรก ๆ ของซีรีส์ Kratos ไม่ได้มีหนวดยาวขนาดนี้ ทำให้มีแฟนเกมอยากลองย้อนวัย Kratos และได้สร้าง Mod ในเกม God of War Ragnarok ที่ปรับให้ใบหน้าของ Kratos ให้ไร้หนวดเครา เหมือนกับสมัยออกบน PS2 และ PS3 โดยเป็นผลงานของ YouTuber ช่อง Speclizer ได้ปล่อยคลิป God of War Ragnarok เวอร์ชันไร้เคราของ Kratos ที่ดูแล้วอาจจะหลอนกว่าเดิมจนแฟน ๆ อาจจะอยากให้ใส่กลับเข้าไปเหมือนเดิมมากกว่า นอกจากนี้ลูกชายของเขายังมีการเปลี่ยนทรงผมให้กลายเป็นสกินเฮดด้วย เกม God of War Ragnarok วางขายแล้ววันนี้บน PS4, PS5 และเพิ่งมีชื่อเข้าชิงรางวัล The Game Awards 2022 หลายรางวัล รวมทั้ง Game Of The Year ด้วย
แบไต๋ • 17 พ.ย. 65
อ่าน
รีวิวเกม Gears of War 1 เกมชู้ตติ้งยุคใหม่ที่ปฏิวัติวงการเกม
Gears of War 1 เป็นเกมแอ็คชั่นมุมมองบุคคลที่ 3 แนวชู้ตติ้งที่พัฒนาโดย The Coalition วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 2006 สำหรับเครื่อง Xbox 360 และในปี 2015 สำหรับเครื่อง PC เกมนี้ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ทั้งในด้านยอดขายและคำวิจารณ์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นเกมที่ปฏิวัติวงการเกมชู้ตติ้งยุคใหม่ เนื้อเรื่องเกม Gears of War 1 เล่าถึงเรื่องราวของ Marcus Fenix นายทหารผู้รอดชีวิตจากสงครามระหว่างมนุษย์กับเผ่า Locust เหล่า Locust เป็นสัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายตั๊กแตนที่อาศัยอยู่ใต้ดิน พวกเขาบุกขึ้นมาบนโลกเพื่อทำลายล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ Marcus และทีมของเขาจึงต้องออกเดินทางเพื่อหยุดยั้ง Locust เนื้อเรื่องหลักของเกมจะดำเนินไปตามลำดับเหตุการณ์ ผู้เล่นจะได้สัมผัสกับเรื่องราวอันเข้มข้นของสงครามระหว่างมนุษย์กับ Locust ตัวละครแต่ละตัวมีเรื่องราวและภูมิหลังที่น่าสนใจ ผู้เล่นจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับพวกเขาไปพร้อมๆ กับเนื้อเรื่อง เกมเพลย์เกมเพลย์ของ Gears of War 1 เน้นไปที่การต่อสู้แบบระยะประชิด ผู้เล่นจะต้องใช้สภาพแวดล้อมเป็นที่กำบังเพื่อหลบกระสุนจากศัตรู อาวุธหลักของเกมคือปืนกลติดเลื่อยไฟฟ้า (Chainsaw Lancer) ซึ่งผู้เล่นสามารถใช้ฟันหรือยิงศัตรูได้อย่างรุนแรง เกมนี้ยังนำเสนอระบบการต่อสู้ที่ดุเดือดและรวดเร็ว ผู้เล่นจะต้องใช้ไหวพริบและทักษะการต่อสู้เพื่อเอาชนะศัตรู กราฟิกเกม Gears of War 1 ใช้เอนจิ้น Unreal Engine 4 ในการพัฒนา กราฟิกของเกมจึงออกมาสวยงามสมจริง ฉากต่างๆ ภายในเกมถูกออกแบบมาอย่างสวยงาม รายละเอียดของตัวละครและอาวุธก็ทำออกมาได้ดี กราฟิกของเกมนี้ยังคงดูดีอยู่ในปัจจุบัน เสียงประกอบเสียงประกอบของเกม Gears of War 1 ยอดเยี่ยมมาก เสียงกระสุน เสียงระเบิด และเสียงเอฟเฟกต์ต่างๆ ล้วนทำออกมาได้สมจริง เสียงพากย์ของตัวละครก็ดีเช่นกัน ผู้เล่นจะรู้สึกอินไปกับเนื้อเรื่องและตัวละครมากขึ้น ความสนุกเกม Gears of War 1 เป็นเกมที่สนุกมาก เกมเพลย์ที่ดุเดือดและรวดเร็วทำให้ผู้เล่นรู้สึกตื่นเต้นตลอดเวลา เนื้อเรื่องที่น่าสนใจและตัวละครที่มีเสน่ห์ทำให้ผู้เล่นอยากติดตามเรื่องราวต่อไปเรื่อยๆ เกมนี้จึงเป็นเกมที่ไม่ควรพลาดสำหรับคอเกมชู้ตติ้ง ข้อดีเนื้อเรื่องเข้มข้นและน่าติดตามเกมเพลย์ที่ดุเดือดและรวดเร็วกราฟิกสวยงามสมจริงเสียงประกอบยอดเยี่ยม ข้อเสียบางครั้งอาจมีความยากเกินไปสำหรับผู้เล่นมือใหม่ สรุปเกม Gears of War 1 เป็นเกมแอ็คชั่นชู้ตติ้งที่ยอดเยี่ยมมาก เกมนี้ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามทั้งในด้านยอดขายและคำวิจารณ์ เกมนี้จึงเป็นเกมที่ไม่ควรพลาดสำหรับคอเกมชู้ตติ้ง ประสบการณ์การเล่นส่วนตัวผมเริ่มเล่นเกม Gears of War 1 ครั้งแรกในปี 2008 ตอนนั้นผมเพิ่งซื้อเครื่อง Xbox 360 มาใหม่ เกมนี้เป็นหนึ่งในเกมแรกที่ผมซื้อมาเล่น และผมก็ประทับใจกับมันมากตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เล่น ผมชอบเนื้อเรื่องเข้มข้นและน่าติดตามของเกมนี้มาก ตัวละครแต่ละตัวมีเรื่องราวและภูมิหลังที่น่าสนใจ ผู้เล่นจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับพวกเขาไปพร้อมๆ กับเนื้อเรื่อง เกมนี้ยังนำเสนอระบบการต่อสู้ที่ดุเดือดและรวดเร็ว ผู้เล่นจะต้องใช้ไหวพริบและทักษะการต่อสู้เพื่อเอาชนะศัตรู กราฟิกของเกมนี้ก็ทำออกมาได้ดีเช่นกัน ฉากต่างๆ ภายในเกมถูกออกแบบมาอย่างสวยงาม รายละเอียดของตัวละครและอาวุธก็ทำออกมาได้ดี กราฟิกของเกมนี้ยังคงดูดีอยู่ในปัจจุบัน เสียงประกอบของเกมก็ยอดเยี่ยมมาก เสียงกระสุน เสียงระเบิด และเสียงเอฟเฟกต์ต่างๆ ล้วนทำออกมาได้สมจริง เสียงพากย์ของตัวละครก็ดีเช่นกัน ผู้เล่นจะรู้สึกอินไปกับเนื้อเรื่องและตัวละครมากขึ้น ผมใช้เวลาเล่น Gears of War 1 นานหลายสัปดาห์กว่าจะจบเกม ผมสนุกกับเกมนี้มาก เกมนี้จึงเป็นเกมที่มีความสำคัญต่อผมมากเกมหนึ่ง คำแนะนำสำหรับผู้เล่นมือใหม่ ผมแนะนำให้ลองเล่นโหมดเนื้อเรื่องในโหมด Casual ก่อน เพื่อทำความคุ้นเคยกับเกมเพลย์และการควบคุมต่างๆ เมื่อผู้เล่นคุ้นเคยกับเกมแล้วค่อยลองเล่นโหมดเนื้อเรื่องในโหมด Normal หรือ Hardcoreนอกจากนี้ เกมนี้ยังมีโหมด Multiplayer ที่ให้ผู้เล่นได้ต่อสู้กันแบบออนไลน์ ผู้เล่นสามารถลองเล่นโหมดนี้เพื่อฝึกฝนทักษะการต่อสู้ เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
jjonline5581 • 5 ม.ค. 67
อ่าน
สรุปเนื้อเรื่องแบบรวบรัดการเดินทางของ Kratos ตั้งแต่ต้นก่อนเล่น God of War Ragnarok
เชื่อว่าหลายคนที่ได้อ่านบทความนี้อยู่คงจะเริ่มเล่นหรืออาจจะเล่นเกม ‘God of War Ragnarok’ จบกันไปเรียบร้อยกันหมดแล้ว หรือบางคนที่กำลังตัดสินใจว่าจะซื้อมาเล่นดีไหมเพราะยังไม่รู้ว่าเรื่องราวมันเป็นมาอย่างไร เพราะตั้งแต่ที่เกมซีรีส์ ‘God of War’ ปล่อยออกมาในเดือนมีนาคมปี 2005 บนเครื่อง ‘PlayStation 2’ ตัวเกมก็ได้ออกภาคเสริมภาคแยกภาคก่อนหน้าภาคแรกออกมาตามเครื่องเกมต่าง ๆ มากมาย แถมทุกภาคยังเชื่อมโยงกันไปมาจนหลายคนที่ไม่ได้เล่นบางภาคอาจจะงุนงง กับการเดินทางของเฮียโล้นซ่าล่าทวยเทพคนนี้ ว่าเขามีความเป็นมาเป็นไปอย่างไรกว่าจะมาถึงตรงจุดนี้ ซึ่งนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หลายคนไม่รู้สึกอยากเล่นเกมนี้ เพราะไม่เข้าใจเรื่องราวของเกมที่ผ่านมา เมื่อเป็นอย่างนั้นเราเลยไปรวบมัดเนื้อเรื่องเกมทุกภาคของซีรีส์ ‘God of War’ มาสรุปสั้น ๆ เข้าใจง่ายแต่ครบทุกเนื้อหามาให้ได้อ่านกัน เพื่อจะได้เล่นเกม ‘God of War Ragnarok’ ได้สนุกยิ่งขึ้น โดยเราจะเรียงตามเนื้อเรื่องแบบเล่าไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่ต้นจนถึง ‘God of War 3’ โดยจะไม่พูดถึงตัวเกมว่ามาจากภาคไหน แต่จะเล่ายาว ๆ ทีเดียวยาว ๆ พออ่านจบก็จะรู้เลยว่ากว่าเฮียโล้นแกจะมาถึงตรงนี้ เครโทส (Kratos) ต้องผ่านอะไรมามากมายขนาดไหน ถ้าพร้อมแล้วก็มาดูสรุปเนื้อหาโล้นซ่าล่าเหล่าทวยเทพกันได้เลย เด็กแห่งคำทำนายที่จะล้างบางเหล่าทวยเทพ จุดเริ่มต้นเรื่องของ ‘God of War’ มันเริ่มต้นง่าย ๆ จากคำทำนายที่ถูกบันทึกเอาไว้ในอดีตที่บอกเอาไว้ว่า “เด็กชายผู้มีปานสีแดงพาดบนตัวจะเป็นผู้ทำลายเหล่าเทพ” นับจากวันนั้นเหล่าเทพต่างก็เฝ้าดูว่าจะมีเด็กชายคนนั้นเกิดเมื่อมาเมื่อใด จนวันหนึ่งก็ได้มีเด็กชายชาว ‘Spartan’ นามว่า ดีมอส (Deimos) น้องชายของเครโทสที่เกิดมาพร้อมปานสีแดงที่พาดตามตัว จึงทำให้เทพเจ้าสูงสุดอย่าง ซุส (Zeus) สั่งให้ แอรีส (Ares) เทพเจ้าแห่งสงครามไปจับเด็กชายคนนั้นมา ต่อหน้าเครโทสที่ไม่สามารถช่วยน้องชายของตัวเองได้ แถมในครั้งนั้นเครโทสยังโดนแอรีสตบสั่งสอนไปหนึ่งทีข้อหามาทำให้เทพเสียเวลา ซึ่งเอาจริง ๆ ทั้งเครโทสและดีมอสต่างก็เป็นลูกของซุสที่ไข่ทิ้งไว้กับมนุษย์ หลังจากเหตุการณ์ในตอนนั้นเครโทสก็สักสีแดงที่หน้าและตัวของเขาให้เหมือนน้องชาย เพื่อเป็นการเตือนตัวเองถึงความไร้ซึ่งพลังในการต่อสู้และเพื่อนึกถึงน้องชายของเขา ซึ่งหลังจากวันนั้นเครโทสก็ฝึกฝนตัวเองจากเด็กชายผอมแห้งมาเป็นโล้นซ่าหุ่นล่ำแม่ทัพของชาว ‘Spartan’ อาฮู้ (เสียงร้องในหนังเรื่อง 300) จุดเริ่มต้นเข้าสู่วงการเทพ วันเวลาผ่านไปอย่างช้า ๆ เครโทสเติบโตเป็นหนุ่มที่แข็งแกร่งเขาไม่ยอมให้อดีตมาฉุดรั้ง พร้อมกับเดินหน้าเพื่อฝึกฝนตัวเองให้เป็นนักรบอันแข็งแกร่ง เพราะที่ ‘Spartan’ อาฮู้ เราไม่รับคนที่อ่อนในหมู่บ้าน ซึ่งเครโทสก็สามารถไต่เต้าจากนายทหารธรรมดามาเป็นหัวหน้าหมู่ของกองทัพ พร้อมกับมีครอบครัวและลูกน้อยหนึ่งคนชื่อ คัลไลโอพี (Calliope) ที่จู่ ๆ ลูกสาวก็มีอาการป่วยอย่างไม่ทราบสาเหตุ ที่ไม่มีหมอคนใดสามารถรักษาอาการป่วยนี้ได้ และสิ่งเดียวที่จะช่วยลูกน้อยให้รอดจากชะตากรรมอันโหดร้ายนี้ได้คือ ‘Ambrosia’ หรืออาหารของเหล่าทวยเทพที่สามารถรักษาทุกโรคได้ดั่งใจ การเดินทางเพื่อตามหาอาหารเทพจึงเริ่มขึ้น ซึ่งเมื่อเฮียโล้นของเราก็ไปขออาหารเทพจากแอรีสเทพที่ตนบูชา แอรีสก็ยื่นข้อเสนอให้เครโทสมาเป็นหมากของเขาในการแข่งขันเกมต่อสู้ ที่เหล่าเทพจะเลือกมนุษย์เก่ง ๆ มาต่อสู้กันจนเหลือคนสุดท้าย ซึ่งคน ๆ นั้นจะขออะไรก็ได้ถ้าเขาชนะการแข่ง หรือจะพูดง่าย ๆ คือเหล่าเทพเบื่อเลยหาอะไรสนุก ๆ ทำ เมื่อเป็นอย่างนั้นเครโทสก็รับอาสาลงแข่งในตัวแทนเทพแอรีส ไปไล่กระทืบตัวแทนของเทพคนแล้วคนเล่าจนสามารถเอาอาหารเทพมาช่วยลูกสาวได้ พันธสัญญาเทพเจ้า หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นชื่อเสียงของเครโทสก็เลื่องลือถึงความแข็งแกร่ง จนพระราชา ‘Spartan’ อาฮู้ ได้แต่งตั้งเครโทสเป็นแม่ทัพเพื่อรุกรานดินแดนต่าง ๆ มาเป็นของตน ซึ่งเครโทสที่ได้เลื่อนขั้นก็บ้างานแบบสุด ๆ จนแทบไม่สนใจลูกเมียที่บอกให้เขาลาพักร้อนมาอยู่กับครอบครัวเขาก็ไม่สนใจ จนมีศึกหนึ่งเครโทสกำลังจะพ่ายแพ้ให้กับ ‘Barbarian King’ ที่กำลังจะสังหารเขาในสนามรบ แต่ในวินาทีแห่งความเป็นความตายเครโทสก็ได้ร้องเรียกเทพเจ้าแห่งสงครามแอรีสให้มาหา เพื่อยื่นข้อเสนอว่าตนเองจะเป็นทาสรับใช้แอรีสเพื่อแลกกับชัยชนะในครั้งนี้ ซึ่งแอรีสที่เคยเห็นฝีมือเครโทสมาจึงรับข้อเสนอทันที โดยการเขียน ‘Death Note’ ให้ทหารของฝั่ง ‘Barbarian King’ ตัวติดไฟหัวระเบิดตายยกกองทัพ ส่วน ‘Barbarian King’ ก็ถูกเครโทสใช้ดาบโซ่ ‘Blades of Chaos’ (ของแถมในสัญญาทาส) ตัดคอของ ‘Barbarian King’ สำเร็จ หลังจากนั้นเครโทสที่บ้าเลือดก็สั่งกองทัพ ‘Spartan’ อาฮู้ ไปฆ่าล้างบางเมืองอื่น ๆ ตามคำสั่งของแอรีสแบบไม่รู้สึกตัว กำเนิดผีร้ายแห่ง Sparta เครโทสที่หน้ามืดตามัวคิดว่าตนเองต่อสู้ในสงครามแบบไม่ลืมหูลืมตา จนมาถึงครั้งสุดท้ายในสนามรบนั้นเอง เครโทสก็ได้สติกลับมาและรู้สึกตัวว่าซากศพที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้คือลูกและภรรยาตนเองที่เขาเพิ่งสังหารไป ตามคำสั่งของแอรีสที่ต้องการให้เครโทสเป็นนักรบที่ไร้พันธะผูกพันเพื่อก้าวขึ้นสู่หมากมือหนึ่งของเทพแห่งสงคราม หลังจากเหตุการณ์ในตอนนั้นเครโทสได้เผาศพลูกและภรรยาตัวเองด้วยความเศร้าโศกและรู้สึกผิดในสิ่งที่ทำลงไป ซึ่งในตอนนั้นเองซากเถ้ากระดูกของลูกเมียเครโทสก็ลอยมาเกาะที่ตัวของชายโล้นที่กำลังเศร้าโศก จนทำให้ตัวเขาขาวซีดเหมือนผี ซึ่งในตอนนี้เราสามารถตีความได้ว่า นั่นคือคำสาปของลูกเมียเครโทส เพื่อให้เขารับรู้ว่าตนเองได้ทำอะไรลงไป กับการตีความว่าฝุ่นผงเถ้ากระดูก (ที่ไม่ใช่แป้ง) นั้นมาเกาะตามตัวเครโทสเพื่อการโอบกอดและอยู่กับคนที่รัก เพราะลูกเมียรู้ว่าเครโทสไม่มีวันทำแบบนี้แน่นอน นับจากวันนั้นก็ถือกำเนิดผีร้ายแห่งสปาร์ต้า ‘Ghost of Sparta’ ที่ต้องการล้างพันธสัญญาเทพเจ้าแห่งสงคราม ชายผู้ผิดสัญญากับเทพ 6 เดือนหลังจากที่เครโทสฆ่าลูกเมียตัวเองไปเรียบร้อย เขาก็ประกาศแกรดจบการศึกษาจากการเป็นนักรบของเทพเจ้าสงคราม แต่แค่การประกาศว่าจะเลิกรับใช้เทพมันไม่ใช่แค่บอกแล้วจะเลิกเป็นได้เลย เพราะสัญญาทาสไม่ได้ระบุวันหมดอายุ เครโทสจึงถูกจับมาขุมขังที่เรือนจำผู้ถูกสาปที่สร้างบนตัวยักษ์ 10 แขน อีเกียน (Aegaeon) และถูกทรมานจากเหล่า ‘Furies’ ที่ให้เขาต้องทนทรมานไปกับภาพการสังหารลูกเมียซ้ำไปมา จนเมื่อเฮียโล้นหลุดจากพันธนาการเฮียก็จัดการเหล่า ‘Furies’ รวมถึงยักษ์ 10 แขนลงอย่างง่ายดาย (ยักษ์ตัวใหญ่เท่าภูเขาเฮียโล้นตัวเท่ามดคิดดู) และได้พบกับ โอลคอส (Orkos) ลูกชายผู้ไม่เอาไหนของเทพแห่งสงครามแอรีส ที่ทางนั้นก็ต้องการตัดพันธสัญญาของเทพเหมือนเครโทส ที่สุดท้ายแล้วสิ่งที่เครโทสต้องทำเพื่อจะออกจากวงการลูกน้องเทพคือการฆ่าโอลคอสเสีย เพราะเขาคือพันธสัญญาของเครโทสและแอรีสที่เหล่า ‘Furies’ ทำไว้ เครโทสที่แม้ไม่อยากทำแต่ก็ต้องจำใจสังหารโอลคอส ด้วยการมอบความตายอย่างมีเกียรติแก่เขา จนพันธสัญญาของเครโทสและโอลคอสหลุดจากแอรีส ที่คราวนี้ก็ถึงเวลาแก้แค้นแล้ว เฮียโล้นที่จบการศึกษาประกาศแกรดของจริงอย่างเป็นทางการ ภารกิจช่วยโลก 10 ปีหลังจากที่เครโทสประกาศแกรดจบการศึกษาอย่างเป็นทางการ เขาก็เข้าร่วมต่อสู้ในกองทัพต่าง ๆ มากมายจนได้ฉายาผีร้ายแห่งสปาร์ต้า และตามหาแอรีสไปด้วยเพราะเทพแห่งสงครามต้องปรากฏตัวในสงครามที่ใดที่หนึ่งอย่างแน่นอน และในระหว่างที่เครโทสกำลังทำสงครามกับกองทัพ ‘Persian’ อย่างสนุกสนาน จู่ ๆ พระอาทิตย์ก็หายไปจากท้องฟ้า แถมเหล่าเทพต่างก็หลับสนิทเพราะถูกเทพแห่งความฝัน มอร์เฟียส (Morpheus) กล่อม ซึ่งถ้าโลกไร้ซึ่งดวงอาทิตย์และเหล่าเทพมนุษย์คงตายอย่างแน่นอน เฮียโล้นเราเลยตามสืบเพื่อหาสาเหตุจนทราบว่าสาเหตุที่พระอาทิตย์หายไปเกิดจากในนรกเป็นต้นเหตุ การเดินทางท่องนรกของเครโทสจึงเริ่มขึ้น ซึ่งในนั้นเครโทสได้เจอกับลูกสาวอีกครั้ง ที่ตรงนี้เครโทสสามารถเลือกจะใช้ชีวิตกับลูกสาว หรือจะเลือกช่วยโลกด้วยการกดปุ่ม “O” รั่ว ๆ เพื่อสลัดลูกสาวให้ออกจากตัวเพื่อไปช่วยโลก ที่ตรงนี้คนทำเกมใจร้ายมากให้เราคนเล่นกดปุ่มแทนที่จะให้เครโทสทำเอง ประมาณว่าเราคือคนเลือกให้เครโทสไม่ใช่เครโทสเป็นคนเลือก ซึ่งคนที่อยู่เบื้องหลังในครั้งนี้คือ เพอร์เซโฟนี (Persephone) ภรรยาของเทพเจ้าแห่งนรกที่ถูกลักพาตัวมาแบบไม่ตั้งใจ จนเธออยากจะใช้โอกาสนี้ทำลายสวรรค์ทิ้งด้วยการลักพาตัวเทพแห่งดวงอาทิตย์ เฮลิออส (Helios) เพื่อปลุกยักษ์ไททัน แอตลาส (Atlas) ให้ทำลายสวรรค์ก่อนที่จะถูกเฮียโล้นเราขัดขวางและเช็กบิลทุกคนที่เป็นต้นเหตุเรื่องนี้ หนทางฆ่าเทพ หลังจากช่วยโลกและเหล่าเทพได้ ตอนนั้นเองแอรีสก็ปรากฏตัวเพื่อทำลายเมืองตามที่เคนโทสคิด แต่พอเทพเจ้าสงครามมาเครโทสกลับไม่มีพลังพอที่จะไปสู้กับเทพ เพราะเทพเจ้านั้นต่างกับยักษ์ตรงที่ตัวใหญ่อย่างเดียว แต่เทพมีพลังอำนาจที่สามารถเป่ามนุษย์แบบเครโทษเป็นฝุ่นได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว แต่หนทางก็ใช่ว่าจะไม่มีโดยการชี้นำของ อาเธน่า (Athena) เทพแห่งการศึก (นักวางแผน) บอกเครโทสถึงหนทางการกำจัดเทพเจ้าได้ ด้วยการไปเอาพลังมาจาก ‘Pandora’s Box’ ที่อยู่บนหลังของยักษ์ โครนอส (Cronos) จนสามารถเครโทสเปิดกล่อง ‘Pandora’ เขาก็ได้พลังเทียบเท่าเทพเจ้าสงครามจนสามารถเอาชนะเทพเจ้าสงครามแอรีสลงได้ และตัวเองก็ขึ้นรับตำแหน่งเทพแห่งสงครามคนใหม่ แก้ปมในอดีต เมื่อขึ้นเป็นเทพเจ้าแห่งสงครามสิ่งแรกที่เครโทสทำก็คือการออกเดินทางเพื่อทำลาย ‘Ambrosia’ หรืออาหารเทพเพื่อให้แน่ใจว่าแอรีสจะไม่ได้รับการชุบชีวิตขึ้นมาจากสาวกของแอรีส ซึ่งในภารกิจนี้ก็ทำให้เครโทสเห็นภาพแม่ของเขาในวิหาร ‘Poseidon’ จึงทำให้เครโทสต้องเดินทางไปยังใต้สมุทร ‘Atlantis’ โดยไร้ซึ่งพลังเทพ ที่นั่นเครโทสได้เจอท่านแม่ที่คิดว่าตายไปแล้ว และรับทราบว่าดีมอสน้องชายที่ถูกจับไปยังไม่ตาย แต่ด้วยการยุยงของเหล่าเทพที่ไม่อยากให้ครอบครัวมาพบเจอกัน เพราะเทพเจ้าบางส่วนก็ไม่ชอบเครโทสที่ฆ่าเทพแล้วยึดอำนาจมา แม่และน้องชายของเครโทสจึงถูกสาปให้สู้กับเครโทส จนเขาต้องปลิดชีพแม่และน้องชายของตัวเอง ที่ตรงจุดนี้มันได้สร้างความบาดหมางให้เครโทสและเหล่าเทพ เมื่อเขารู้ความจริงทั้งหมดว่าเทพเจ้าที่เขาเคารพนั้นอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ความบาดหมางที่เริ่มก่อตัว หลังจากเหตุการณ์ในตอนนั้นเครโทสก็เริ่มไม่พอใจเหล่าเทพ จึงได้ก่อสงครามไปทั่วเพื่อยั่วโมโหเทพตามภาษาคนหัวร้อน จนมีครั้งหนึ่งระหว่างที่เครโทสกำลังช่วยเหล่า ‘Spartan’ อาฮู้ โจมตีเมือง ‘Rhodes’ โดยมีเฮียโล้นเทพสงครามแปลงร่างเป็นตัวใหญ่ช่วยทำลายเมืองเหมือนเด็กน้อยทำลายข้าวของ จนทำให้ซุสไม่ถูกใจสิ่งนี้จึงลงมือขโมยพลังเทพของเครโทสไปพร้อมส่งรูปปั้นยักษ์มาจัดการเขา และปั้นคำโกหกว่าถ้าอยากได้พลังคืนก็ไปเอา ‘Blade of Olympus’ มาแล้วพลังจะคืนมา จนเมื่อได้ดาบแห่งสวรรค์มาเครโทสก็สามารถเอาชนะรูปปั้นยักษ์ได้แต่ตัวเองกลับถูกดูดพลังเทพไปจนหมดแทน เมื่อถูกดูดพลังเทพไปหมดเครโทสก็เป็นแค่คนธรรมดา แถมยังถูกซุสสมน้ำหน้าบอกโง่เองที่เชื่อเทพก่อนจะเอาดาบ ‘Blade of Olympus’ แทงเครโทสจนเขาตายตกนรก (อีกแล้ว) แต่เฮียโล้นก็ไม่ยอมตกลงนรกง่าย ๆ เพราะแกลงไปบ่อยจนรู้ทางดีจึงสามารถขึ้นมาจากนรกได้แบบง่ายดาย และหาทางเอาคืนซุสโดยการแนะนำของ ไกอา (Gaia) ยักษ์ไททันที่เป็นดั่งแม่ของซุสที่ต้องการล้างแค้น จึงแนะนำให้เขาไปทำลาย ‘Sisters of Fate’ เพื่อควบคุมชะตาตนเอง เพราะ ‘Sisters of Fate’ คือผู้กำหนดพรหมลิขิตของทุกชีวิตแม้แต่เทพเจ้า ถ้าสามคนนี้ตายก็ไม่มีคนมากำหนดชะตาให้เขาและเทพ (ประมาณว่าเทพองค์นี้มีกำหนดตายอีก 500 ปีตอนนี้เครโทสจะฆ่าให้ตายเทพก็รอด) คราวนี้เครโทสก็จะเป็นคนกำหนดชีวิตให้เทพได้ และยังเดินทางข้ามเวลามาเพื่อกำจัดซุสไปช่วงก่อนที่ตัวเองจะถูกแทงตาย จนผลิกเกมกลับมาเอาชนะซุสท่านพ่อสุดที่รักได้ แต่ในวินาทีที่จะฆ่าพ่อตัวเอง อาเธน่าก็มาขวางจนเธอรับดาบ ‘Blade of Olympus’ ไปเต็ม ๆ ขณะที่ซุสก็หนีไปได้ หลังจากนั้นเครโทสก็ร่วมมือกับไกอาและยักษ์ไททันคนอื่น ๆ บุกสวรรค์เพื่อล้างแค้น โล้นซ่าฆ่าล้างทวยเทพ เรื่องราวเกิดขึ้นต่อเนื่องแบบทันทีทันใด เครโทสบุกสวรรค์เพื่อฆ่าเหล่าเทพโดยมีท่านจ้าวสมุทร โพไซดอน (Poseidon) เป็นเหยื่อคนแรก ก่อนจะตามด้วยไกอาที่หันมาทรยศเครโทสเพราะถึงแม้ทั้งคู่จะร่วมมือกันแต่ต่างฝ่ายต่างก็ไม่ไว้ใจกันจนเกิดเป็นการฆ่ากันเอง (ก่อนหน้านี้เครโทสก็ฆ่ายักษ์ไปหลายตน) หลังจากนั้นเครโทสก็ตามฆ่าเทพไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็น เฮอร์คิวลีส (Hercules) จ้าวนรก เฮดีส (Hades) จนแทบหมดสวรรค์ และสิ่งที่สำคัญที่สุดในการกำจัดเหล่าเทพก็คือ ‘Pandora’s Box’ ที่จะเป็นกุญแจแห่งชัยชนะอย่างแท้จริง เพราะในนั้นมีพลังยิ่งใหญ่ให้แก่ผู้เปิดกล่องที่เทพก็คิดจะใช้พลังนี้ไปตบเครโทส แต่เครโทสก็ไปชิงมาก่อนโดยกุญแจของ ‘Pandora’s Box’ ครั้งนี้ก็คือตัวเด็กสาวจนเธอต้องสละชีวิตเพื่อเปิดกล่อง ที่สุดท้ายเครโทสก็ได้พลังจากกล่อง ‘Pandora’ มาสู้กับซุสสมใจ จนสามารถฆ่าเทพเจ้าสูงสุดลงได้พร้อมกับโลกที่กำลังล่มสลายเพราะขาดเหล่าเทพมาสร้างสมดุล อาธีน่าจึงอยากให้เครโทสมาเป็นเทพเจ้าสูงสุดและปกครองทุกชีวิตต่อไปแทนซุส เพราะพลังความหวังของ ‘Pandora’s Box’ อยู่ในตัวเครโทส แต่เครโทสไม่สนใจสิ่งนั้นอีกแล้ว เขาใช้ ‘Blade of Olympus’ แทงตัวเองเพื่อคืนความหวังให้ทุกคน ก่อนที่เกมจะตัดจบให้เรารู้ว่าเครโทสยังไม่ตายเพราะมีเพียงกองเลือดเท่านั้น จนมาถึงเรื่องราวใน ‘God of War’ ปี 2018 ที่เป็นเครโทสคนเดิมเพิ่มเติมคือหุ่นหมีและหนวดเคราที่ยาวขึ้นกับเด็กชายบอย ซึ่งเราขอตัดจบเรื่องราวตรงนี้และให้คุณไปหาเกมภาคนี้มาเล่นเอง เพื่อความเข้าใจในเนื้อหาก่อนเข้า ‘God of War Ragnarok’ เป็นอย่างไรกันบ้างกับเรื่องราวของเทพเจ้าแห่งสงคราม ที่เราเล่าเรื่องแบบรวบรัดเอาแต่ส่วนที่สำคัญมาตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ เพื่อให้แฟน ๆ เกม ‘God of War’ ได้ทราบเนื้อหาเรื่องราวในอดีตของเครโทสว่าเขาต้องผ่านและเจออะไรมาบ้างกว่าจะมาถึงตรงนี้ โดยเราจะขอข้ามภาค ‘God of War’ ปี 2018 ไปเพื่อให้หลายคนไปหามาเล่นเอาเอง เพื่อเท้าความก่อนเข้าสู่เนื้อหาใน ‘God of War Ragnarok’ ซึ่งทั้งสองภาคนี้แทบจะเป็นเรื่องราวใหม่ที่ไม่เกี่ยวกับภาคเก่า แถมในภาคปี 2018 ก็มีรายละเอียดมากมายที่ถ้าเราเอามาเล่าแบบละเอียดคงต้องใช้ทั้งบทความในการเล่าเพื่อไม่ให้ตกหล่น ดังนั้นคุณควรไปหามาเล่นเองจะดีกว่า และเราก็หวังว่าเนื้อหาในบทความนี้จะช่วยให้คุณรู้จักเรื่องราวของ ‘God of War’ มากขึ้น ซึ่งถ้าเนื้อหาบทความนี้ข้ามหรือขาดตกตรงไหนไปก็ขออภัยมาด้วย ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวอะไรในวงการเกมก็ติดตามกันได้ที่นี่ที่เดียว หรือจะไปอ่านบทความเก่า ๆ ที่ผ่านมาก็มีให้คุณเลือกดูมากมายไม่มีเบื่อแน่นอน เพราะที่แบไต๋มีครบทุกความบันเทิงเพื่อคุณ
แบไต๋ • 14 พ.ย. 65
อ่าน
รีวิวเกม XCOM 2 WAR OF THE CHOSEN ภาคต่อของเกมวางแผนในตำนาน
เรื่องราวในเกม XCOM 2: WAR OF THE CHOSEN เริ่มต้นหลังจากเหตุการณ์ในภาคแรก เมื่อ ADVENT พันธมิตรกับเผ่าพันธุ์นอกโลกชื่อ Elders ได้ยึดครองโลกไว้ แต่แล้วก็มีกลุ่มกบฎที่เรียกตัวเองว่า "RESISTANCE" ต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษยชาติ ในฐานะนายพลของกองกำลังกบฎ คุณจะต้องนำทีมสายลับสู้รบกับเหล่า ADVENT ที่มีพลังและอาวุธทันสมัย ด้วยการวางแผน บังคับบัญชา และนำพาลูกทีมปฏิบัติภารกิจต่างๆ สำเร็จลุล่วง สิ่งที่ดึงดูดผู้เล่นจากเกมนี้คือระบบต่างๆ ที่ได้รับการปรับปรุง เช่น การปรับแต่งและคัสตอมตัวละครได้มากขึ้น มีการเพิ่มสกิลและอาวุธใหม่ๆ เข้ามา รวมถึงระบบการสร้างคณะกรรมการกบฎเพื่อวางแผนวางกลยุทธ์ต่อสู้เจ้ารัฐบาลเผด็จการ อีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจคือการเข้ามาของ "The Chosen" ซึ่งเป็นหัวหน้ากองกำลังพิเศษของ ADVENT พวกเขามีความแตกต่างและพลังพิเศษที่ท้าทายความสามารถผู้เล่นอย่างมาก บางตัวก็มีความสามารถกลบเกลื่อนได้ดี บางตัวมีพลังพิเศษช่วยสนับสนุนเพื่อนร่วมทีม ซึ่งทำให้คุณต้องเปลี่ยนกลยุทธและวิธีการรับมือไปเรื่อยๆ ในขณะที่ผมเล่นเกมนี้ ผมได้สัมผัสถึงความท้าทายและความตื่นเต้นเร้าใจอย่างมาก เมื่อพวก The Chosen ปรากฏตัวขึ้นในภารกิจ บรรยากาศกดดันเพิ่มขึ้นทันที เนื่องจากพวกเขาไม่ได้มาเพียงแค่เป็นภัยคุกคาม แต่ยังหมายถึงการเกิดเหตุการณ์พิเศษที่ซับซ้อนขึ้นด้วย ในการรบหนึ่งๆ ฉันจะต้องปรับกลยุทธให้เหมาะสมกับรูปแบบการโจมตีและสกิลพิเศษของ The Chosen แต่ละตน บางครั้งจำเป็นต้องแบ่งทีมเพื่อรับมือพร้อมกันหลายด้าน หรือบางครั้งต้องเลือกที่จะตั้งรับหรือถอยร่นเพื่อรอจังหวะ การต่อสู้จึงกลายเป็นสงครามระหว่างการวางแผนอย่างรอบคอบกับปฏิกิริยาการตอบสนองในยามวิกฤต ถึงแม้จะเป็นงานที่ท้าทายและยากลำบาก แต่ความรู้สึกเมื่อปราบ The Chosen ได้สำเร็จนั้นก็เปรียบเสมือนชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ มันทำให้รู้สึกว่าทุกความพยายามและการเสียสละนั้นคุ้มค่าอย่างแท้จริง โดยรวมแล้ว XCOM 2: WAR OF THE CHOSEN เป็นส่วนเสริมที่ยอดเยี่ยม ช่วยเติมเต็มให้เนื้อเรื่องดำเนินไปอย่างมีชีวิตชีวา พร้อมความท้าทายใหม่ๆ ที่ทำให้เกมมีบรรยากาศคึกคักและสนุกสนานยิ่งขึ้น ด้วยองค์ประกอบต่างๆ ที่โดดเด่นจึงสามารถดึงดูดให้ผู้เล่นทั้งรายเก่าและรายใหม่จดจ่ออยู่กับจอเกมได้อย่างยาวนาน เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
jjonline5581 • 3 พ.ค. 67
อ่าน
เอ็มจี คว้า 4 รางวัล CAR OF THE YEAR 2025
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย นำยานยนต์ไฟฟ้า และยานยนต์พลังงานทางเลือก คว้า 4 รางวัล CAR OF THE YEAR 2025 เอ็มจี คว้า 4 รางวัล CAR OF THE YEAR 2025 ALL NEW MG 3 HYBRID+ รับรางวัล BEST HYBRID HATCHBACK UNDER 1,500 c.c. NEW MG4 ELECTRIC รับรางวัล BEST CKD HATCHBACK EV (RWD) NEW MG CYBERSTER รับรางวัล BEST ROADSTER EV NEW MG MAXUS 7 รับรางวัล BEST MID-SIZE MPV EVสะท้อนภาพลักษณ์การเป็นแบรนด์ผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยียานยนต์พลังงานทางเลือกที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และพบกับข้อเสนอพิเศษสำหรับรถยนต์ทั้ง 4 รุ่น ได้ที่ งาน บางกอกอินเตอร์แนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่ากว่า 10 ปี ที่เอ็มจีเป็นหนึ่งในผู้เล่นของตลาดยานยนต์ไทย เรามุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย จึงเกิดเป็นมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ซึ่งรถที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ล้วนอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ของเอ็มจี ไม่ว่าจะเป็น ALL NEW MG3 HYBRID+ รถไฮบริดรุ่นล่าสุดของเอ็มจีกับรางวัล BEST HYBRID HATCHBACK UNDER 1,500 c.c. จากจุดเด่นที่สามารถมัดรวมทุกข้อดีของเทคโนโลยีไฮบริดไว้ในคันเดียว ทั้งสมรรถนะการขับขี่ที่ขับสนุกเสมือนขับรถ EV การตอบสนองที่ดีเยี่ยม และความประหยัดน้ำมัน สำหรับรุ่น NEW MG4 ELECTRIC กับรางวัล BEST CKD HATCHBACK EV (RWD) ด้วยคุณสมบัติการเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรอง Made in Thailand (MiT) จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จึงคว้ารางวัลอันทรงเกียรตินี้มาครอง โดยโมเดลนี้อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีด้านการขับขี่ อีกทั้งรถรุ่นนี้ยังครองตำแหน่งรถไฟฟ้ารุ่นนิยม ที่สร้างยอดขายเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มรถอีวีของ เอ็มจี อีกด้วย อีกรุ่นกับ NEW MG CYBERSTER ที่รับรางวัล BEST ROADSTER EV ที่เข้ามายกระดับตลาดยานยนต์ไฟฟ้าของไทยด้วยสปอร์ตโรดสเตอร์ไฟฟ้าแบบเปิดประทุน 2 ที่นั่ง นอกจากจะโดดเด่นในแง่ของดีไซน์ และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยแล้ว ยังได้สร้างประสบการณ์การขับขี่รูปแบบใหม่ให้กับลูกค้าด้วยพละกำลัง 544 แรงม้า แรงบิด 725 นิวตันเมตร ระยะ 0 100 กม./ชม. ภายใน 3.2 วินาที เท่านั้น สุดท้ายกับ NEW MG MAXUS 7 รับรางวัล BEST MID-SIZE MPV EV รถ e-MPV พลังงานไฟฟ้า 100% แบบ 7 ที่นั่ง ที่ตอบโจทย์การใช้งานของกลุ่มครอบครัวยุคใหม่ที่มีสมาชิกหลากหลายเจนเนอเรชั่น ให้สามารถใช้เวลาร่วมกันได้อย่างมีคุณค่าได้เป็นอย่างดี โดยทั้งรถไฟฟ้าทั้ง 3 รุ่นนี้ มาพร้อมการรับประกันแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อน ตลอดอายุการใช้งาน เพิ่มความอุ่นใจให้กับผู้ขับขี่ตลอดอายุการใช้งาน และหลังจากนี้ เอ็มจี จะยังคงเดินหน้าคิดค้น พัฒนายานยนต์ยุคใหม่ที่จะตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์คนไทยอย่างไม่สิ้นสุด โดยลูกค้าที่สนใจสามารถชมและทดลองขับรถทั้งสี่รุ่นนี้ พร้อมข้อเสนอพิเศษ ได้ที่บูธ เอ็มจี ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม จนถึงวันที่ 6 เมษายนนี้
ข่าวยานยนต์ • 20 มี.ค. 68
อ่าน
รีวิวเกม Gears of War 5 สุดยอดภาคต่อเกมยิงสุดมันในตำนาน
Gears of War 5 เกมยิงมุมมองบุคคลที่สามที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากค่าย Xbox Game Studios ออกวางจำหน่ายครั้งแรกในปี 2019 บนเครื่อง Xbox One และ PC โดยเป็นภาคต่อของ Gears of War 4 เรื่องราวจะดำเนินต่อจากภาคที่แล้ว โดยผู้เล่นจะได้สวมบทบาทเป็น Kait Diaz หญิงสาวที่มีพลังพิเศษที่ต้องออกเดินทางเพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับอดีตของตัวเอง เนื้อเรื่องเนื้อเรื่องของ Gears of War 5 ถือว่าเข้มข้นและน่าติดตามอย่างมาก ผู้เล่นจะได้สัมผัสกับเรื่องราวความรัก ความสูญเสีย และการไถ่บาปของ Kait Diaz ตัวละครเอกของเกม ตัวเกมมีการเล่าเรื่องได้ดี ตัวละครมีพัฒนาการที่ชัดเจน ฉากแอ็กชันก็จัดเต็มสะใจคอเกมยิงอย่างแน่นอน ระบบการเล่นระบบการเล่นของ Gears of War 5 ยังคงยึดตามรูปแบบเดิมของซีรีส์นี้ ผู้เล่นจะต้องใช้การหาที่กำบังเพื่อหลบกระสุนศัตรู และโจมตีศัตรูด้วยการยิงปืนหรือใช้อาวุธระยะประชิด ตัวเกมมีระบบการต่อสู้ที่ลื่นไหลและสมจริง อาวุธแต่ละชนิดมีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกันไป ทำให้ผู้เล่นต้องเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับสถานการณ์ นอกจากโหมดเนื้อเรื่องแล้ว Gears of War 5 ยังมีโหมดการเล่นอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโหมด Horde ที่ให้ผู้เล่น 5 คนร่วมมือกันต่อสู้กับคลื่นศัตรูนับไม่ถ้วน โหมด Escape ที่ให้ผู้เล่น 3 คนหนีออกจากรังของศัตรู โหมด Versus ที่ให้ผู้เล่นต่อสู้กันเองแบบออนไลน์ เป็นต้น ภาพกราฟิกภาพกราฟิกของ Gears of War 5 ถือว่าสวยงามสมจริงอย่างมาก รายละเอียดของตัวละคร ฉาก และเอฟเฟกต์ต่างๆ ทำได้ดีมาก เกมนี้รองรับความละเอียด 4K และ HDR ทำให้ภาพดูสวยงามและมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น เสียงประกอบเสียงประกอบของ Gears of War 5 ถือว่ายอดเยี่ยมมาก เสียงปืน เสียงระเบิด และเสียงเอฟเฟกต์ต่างๆ สมจริงและสร้างบรรยากาศการต่อสู้ได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ เสียงพากย์ตัวละครก็ทำได้ดีมาก ผู้เล่นจะรู้สึกอินไปกับตัวละครและเนื้อเรื่องมากขึ้น ข้อดีเนื้อเรื่องเข้มข้นและน่าติดตามระบบการเล่นลื่นไหลและสมจริงอาวุธแต่ละชนิดมีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกันไปโหมดการเล่นที่หลากหลายภาพกราฟิกสวยงามสมจริงเสียงประกอบยอดเยี่ยม ข้อเสียเกมเพลย์อาจดูซ้ำซากสำหรับผู้เล่นที่เคยเล่นเกมภาคก่อนๆระบบ Microtransactions มีบทบาทค่อนข้างเยอะ สรุปGears of War 5 เป็นเกมยิงมุมมองบุคคลที่สามที่ยอดเยี่ยมมาก เกมมีเนื้อเรื่องเข้มข้น ตัวละครมีพัฒนาการที่ชัดเจน ระบบการเล่นลื่นไหลและสมจริง โหมดการเล่นที่หลากหลาย ภาพกราฟิกสวยงามสมจริง และเสียงประกอบยอดเยี่ยม เกมนี้เหมาะสำหรับแฟนเกมยิงมุมมองบุคคลที่สามหรือผู้ที่ชื่นชอบเกมซีรีส์ Gears of War คะแนนรีวิวเนื้อเรื่อง: 9/10ระบบการเล่น: 9/10โหมดการเล่น: 8/10ภาพกราฟิก: 9/10เสียงประกอบ: 9/10คะแนนรวม: 8.8/10 เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
jjonline5581 • 5 ม.ค. 67
อ่าน
เลเซอร์ “Death Star” ทำลายดวงดาวแบบ “Star Wars” นักวิทย์ฯ จีนอ้างทำสำเร็จแล้ว
Death Star ควบรวมลำแสงเลเซอร์ ทั้งหมด 8 สาย แล้วยิงออกไปเป็นเส้นเดียว ทำลายดาวอัลเดรันทั้งดวง ฉากนี้ กลายเป็นที่จดจำของใครหลายคน ที่แสดงให้เห็นถึงพลังอันโหดร้ายของจักรวรรดิกาแลกติกการทำลายล้างดาวทั้งดวง ด้วยการควบรวมเลเซอร์เข้าด้วยกัน อาจกลายเป็นจริงในอนาคต เมื่อนักวิทยาศาสตร์จีน อ้างว่า พวกเขาคิดค้นหลักการทำงานของอาวุธนี้ได้แล้ว ตามการรายงานของ Live Science---นักวิทย์ฯ จีน เผยสร้างอาวุธเลเซอร์บีมสำเร็จ---แม้จะยังไม่แน่ชัดว่า ทีมวิจัยได้แรงบันดาลในการสร้างเลเซอร์บีมมาจากภาพยนตร์ Star Wars หรือไม่ แต่นักวิทยาศาสตร์จีน ออกมากล่าวว่า พวกเขาได้สร้างอาวุธคลื่นไมโครเวฟชนิดใหม่ ที่เอาคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าพลังงานสูงหลายตัวรวมเข้าด้วยกัน แล้วส่งพลังงานทั้งหมดไปที่เป้าหมายเดียวกันระบบการทำงานของอาวุธนี้ ประกอบด้วยเครื่องส่งคลื่นไมโครเวฟ ประจำตามจุดต่าง ๆแต่ละเครื่องจะยิงลำแสงด้วยการซิงโครไนซ์ที่มีความแม่นยำสูง แล้วแสงเหล่านี้จะรวมตัวเข้าด้วยกัน กลายเป็นลำแสงอันทรงพลัง และโจมตีไปยังเป้าหมายเดียว---หลักการทำงานอาวุธเลเซอร์---ฟังแล้วดูเหมือนจะง่าย แต่เรื่องนี้ยากกว่าที่คิด เพราะคลื่นไมโครเวฟ เป็นลำแสงพลังงานแคบ ที่จำเป็นต้องจัดตำแหน่งอย่างแม่นยำ เพื่อนำมาบรรจบกัน นั่นหมายความว่า จังหวะเวลาที่แสงเหล่านี้ถูกยิงออกมา จะมีเวลาควบคุมเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้นจากข้อมูลของทีมวิจัย ระบุว่า เครื่องส่งคลื่นไมโครเวฟแต่ละตัว ยังต้องวางอยู่ในตำแหน่งที่ตั้งอย่างแม่นยำ โดยจะต้องอยู่ภายในระยะคลาดเคลื่อนได้แค่ 1 มิลลิเมตรเท่านั้น แต่ว่าระบบนำทางดาวเทียม BeiDou ของจีน ระบุตำแหน่งที่แม่นยำได้ภายในระยะ 1 เซนติเมตร หรือ 0.4 นิ้ว ซึ่งนั่นยังไม่เพียงพอสำหรับอาวุธชนิดใหม่นี้ ทีมวิจัยจึงได้ติดตั้งอุปกรณ์กำหนดตำแหน่งด้วยเลเซอร์ ไว้บนเครื่องส่งแต่ละตัว เพื่อให้ได้ระบบกำหนดตำแหน่งที่มีความแม่นยำในระดับมิลลิเมตร และเครื่องส่งต้องอยู่ในระดับที่สมบูรณ์ด้วย เพราะหากพื้นผิวมีการเปลี่ยนแปลง นั่นหมายความ ตัวปล่อยคลื่นจะไม่ได้อยู่ในแนวที่ถูกต้อง และอาวุธจะไม่ทำงานอย่างที่ตั้งใจไว้นี่ไม่ใช่ความยากเพียงเรื่องเดียวของการสร้างเลเซอร์ Death Star เพราะการยิงแบบซิงโครไนซ์ จะต้องเกิดขึ้นภายใน 170 พิโควินาที หรือเท่ากับ 170 ในสัดส่วน 170 ล้านล้านวินาที หากเปรียบเทียบให้เห็นภาพว่า เวลามันสั้นแค่ไหน คอมพิวเตอร์ทั่วไปใช้ระยะเวลา 330 พิโควินาทีในการประมวลผล 1 รอบแต่ทีมวิจัยได้เชื่อมต่อแพลตฟอร์มส่งสัญญาณโดยใช้ใยแก้วนำแสง เพื่อให้มั่นใจว่า แสงเลเซอร์ทั้งหมดจะซิงโครไนซ์กันได้อย่างเหมาะสม และควบคุมจากระยะไกลได้---เลเซอร์ Death Star ในชีวิตจริง ยังคงห่างไกล---South China Morning Post รายงานว่า นักวิทยาศาสตร์จีนในโครงการนี้ อ้างว่า กำลังรวมพลังงานของลำแสงไมโครเวฟที่มาบรรจบกัน มีผลรวมเท่ากับ 1+1 มากกว่า 2 หมายความว่า คลื่นไมโครเวฟ 2 คลื่น เมื่อรวมกัน จะทรงพลังมากกว่า 2 เท่าตัวนั่นเอง แม้ว่าแนวคิดนี้จะขัดกับกฎการอนุรักษ์พลังงาน (Conservation of energy)ถึงกระนั้น ทีมวิจัยจีนประสบความสำเร็จในการควบรวมลำแสงคลื่นไมโครเวฟได้ในสภาวะแวดล้อมที่ควบคุมได้ แต่สำหรับโลกแห่งความเป็นจริง มีปัจจัยที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายมากมาย ซึ่งเรื่องนี้ เป็นความท้าทายอย่างมาก สำหรับเครื่องมือเทคโนโลยีใด ๆ ที่จำเป็นต้องพึ่งพาความแม่นยำสูงในระดับนี้หากจะพูดง่าย ๆ ก็คือ อาวุธเลเซอร์ Death Star ที่จะสามารถทำลายล้างดาวดวงหนึ่งได้ในชีวิตจริง ยังคงเป็นเป็นเรื่องที่ห่างไกลมากยิ่งนักแปล-เรียบเรึยง: พรวษา ภักตร์ดวงจันทร์แหล่งข้อมูลอ้างอิง:https://www.livescience.com/technology/engineering/chinese-scientists-claim-they-have-built-a-death-star-inspired-beam-weaponhttps://www.scmp.com/news/china/science/article/3284794/chinese-scientists-say-they-have-made-converged-energy-beam-weapon-reality
TNN ช่อง16 • 1 ธ.ค. 67
อ่าน
[รีวิวเกม] Advance Wars 1+2 Re-Boot Camp สงครามถล่มเมืองฉบับน่ารัก
หนึ่งในเกมที่ได้รับผลกระทบเพราะสงครามจริง ๆ ก็มีอยู่บนโลกนี้ เพราะว่าหลังจากเกิดสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ทำให้ Nintendo ตัดสินใจเลื่อนวันวางขาย Advance Wars 1+2 Re-Boot Camp ออกไปจากเดิมต้องออกต้นปี 2022 เลื่อนยาวมาออกปี 2023 เรียกว่ารอกันข้ามปีเลย เหตุผลก็ง่าย ๆ เพราะเกมมันมีธีมการทำสงครามบุกเมือง ทำให้ปู่นินกังวัลว่ามันจะส่งผลกระทบกับคนที่เล่นโดยเฉพาะเด็ก ๆ ทำให้ทางค่ายตัดสินใจเลื่อนยาว แม้ว่าตอนนี้สงครามจริงยังไม่จบแต่แฟน ๆ ก็จะได้เล่นกันแล้ว โดยตามชื่อที่มันเป็นภาครวมฮิตเกม Advance Wars 2 ภาค ที่เคยออกบน Gameboy Advance มาทำภาพใหม่หมดวางขายบน Nintendo Switch ถือว่าคุ้มค่าสุด ๆ ส่วนเรื่องราวใน Advance Wars จะเกิดระหว่างสงครามที่มีการรบกันของ 4 ประเทศหลัก ตัวเอกจะอยู่กับกองกำลังของประเทศ Orange Star ที่ถูกรุกรานจากเพื่อนบ้านนาม Blue Moon ที่เกิดต่อเนื่องจนถึงภาค 2 ความดีงามคือภาครีเมกนี้จะมีการลงทุนสร้างคัตซีนเป็นการ์ตูนแอนิเมชันมาให้ชมด้วย ทำให้มันดูดีกว่าต้นฉบับบน GBA มาก กราฟิกปรับใหม่หมดแบบยกเครื่อง แน่นอนว่าในเมื่อมันเป็นการีเมกยกเครื่องใหม่ในแง่ของกราฟิก ทำให้ภาพมันแตกต่างจากต้นฉบับบน Gameboy Advance มากแต่ยังคงอยู่ในรูปแบบเกมเพลย์ 2 มิติ แต่ทุกอย่างจะออกแบบมามีมิติกว่าเดิมที่ชอบมากคือกราฟิกในส่วนของแอนิเมชันที่ใส่มาแบบจัดเต็มมาก โดยเฉพาะตอนใช้ท่าไม้ตายจะตัดภาพเป็นการ์ตูนมาให้ชมกันเลยทำให้มันแตกต่างจากต้นฉบับมาก นอกจากนนี้มีการลงทุนใส่คัตซีนมาใหม่ทั้งหมด รวมทั้งมีการใส่เสียงพากย์เข้ามาตลอดทำให้ในแง่การนำเสนอถือว่าไม่ได้ดูเชยอะไรแม้ว่าหากเทียบกับมาตรฐานเกมในปัจจุบันมันจะดูธรรมดาไปหน่อย อีกส่วนที่ทำได้ดีตามมาตรฐานคือเพลงประกอบที่ไม่ได้มาแนวสงครามที่เน้นความรุนแรงอะไร แม้จะมีธีมเกี่ยวกับกองทหารแต่ก็เหมือนกับการชมการ์ตูนเด็กที่มาแนวทหารมากกว่า เกมเพลย์ยังเหมือนเดิม รูปแบบการเล่นส่วนนี้ยังคงเหมือนเดิมที่เป็นเกม RPG แนววางแผนการรบเทิร์นเบสแบบใส่คำสั่งแล้วเดินคนละตาแบบเดียวกับต้นฉบับไม่เปลี่ยนแปลง และทั้ง 2 ภาคที่มารวมฮิตก็ไม่ได้มีอะไรเพิ่มมากนักในส่วนของเกมเพลย์หลัก ผู้เล่นจะได้เลือกบังคับกองทัพของเราไปต่อสู้กับศัตรูบนฉากที่แบ่งออกเป็นช่อง ๆ เหมือนหมากรุก ส่วนตัวละครกองทัพของเราจะมีหลากหลายรูปแบบทั้งกองทหารราบธรรมดาที่มาพร้อมปืนกล หรือรถถังหลากหลายประเภทที่มีทั้งยิงระยะใกล้และระยะไกล รวมทั้งยังมีเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์และกองเรือ ที่สามารถเดินทางได้รวดเร็วและข้ามทะเล, แม่น้ำหรือภูเขาได้รวมทั้งยังโจมตีได้ระยะไกลว่า นอกจากนี้ยังมีประเภทที่เป็นยานพาหนะที่เราสามารถขนส่งทหารราบขนส่งไปจุดที่ไม่สามารถไปได้ ไม่ใช่เกมเด็ก ๆ วางแผนกลยุทธ์ หากมองแค่ภาพมันจะเหมือนเกมสำหรับเด็ก หรือแนววางแผนที่เล่นง่ายเป็นเกมแก้เซ็งฆ่าเวลา แต่ความจริงแล้วมันมีความยากพอตัวไม่ได้ง่าย ๆ เหมือนกราฟิก เพราะว่าเกมเพลย์แม้จะเรียบง่ายแค่ต่อสู้กำจัดศัตรูหรือยึดเมือง แต่เมื่อเล่นจะพบว่าศัตรูในเกมมีความฉลาดและสามารถวางกลยุทธ์ที่ซับซ้อนชนิดทำให้ผู้เล่นปวดหัวจนแพ้ได้ง่าย ๆ ฉากในเกมมีความซับซ้อนบางครั้งมีจุดที่ผู้เล่นต้องระวังไม่เช่นนั้นจะโดนลอบโจมตีได้ นอกจากนี้การเติมพลังในซีรีส์นี้จะใช้การเดินกลับไปที่เมืองที่เรายึดได้เพื่อเติมกองกำลังในทัพ ทำให้การต่อสู้มีการเดินหน้าลุย และยังมีส่วนที่ผู้เล่นต้องถอยทัพเพื่อหาทางกลับเมืองไปเติมพลัง แถมยังมีบางฉากที่จะเล่นกับความมืดที่ผู้เล่นจะมองไม่เห็นในบางจุดทำให้มีโอกาสโดนซุ่มโจมตีได้ ทำให้มันมีความหลากหลายและสนุกกว่าที่คาดไว้มาก ส่วนของใหม่ที่เสริมเข้ามาในภาค Advance Wars 1+2 Re-Boot Camp นอกจากกราฟิกที่เสริมเข้ามาจนแทบจะเป็นเกมใหม่แล้วยังมาพร้อมโหมดที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถสร้างฉากได้เอง แล้วเอามาเล่นแข่งกันได้ นอกจากนี้ยังมีโหมดเล่นกับเพื่อนผ่านระบบออนไลน์และออฟไลน์ได้ด้วย ทำให้มันมีอะไรให้ทำมากว่าต้นฉบับ สำหรับการกลับมาอีกครั้งของซีรีส์เกมเก่าแก่อย่าง Advance Wars 1+2 Re-Boot Camp ถือว่าทำออกมาได้ดีเกินคาดมาก มีการอัปเกรดกราฟิกใหม่แต่ยังอยู่ในกรอบของเดิมไม่ได้ฉีก ทำให้มันยังคงดูคลาสสิกแถมด้วยความรุนแรงก็ไม่มีแม้จะเป็นเกมแนวสงครามก็ตาม ใครอยากเล่นเกมแนววางแผนการรบที่สนุกแนะนำให้ไปหามาเล่นได้เลย
แบไต๋ • 4 พ.ค. 66
อ่าน
ชวนดู Bleach: Thousand-Year Blood War Part 2 ดูฟรีที่ TrueID
สงครามเลือดพันปี ซีซั่น 8 พาร์ท 2 มาแล้วที่ทรูไอดี ซึ่งในพาร์ทนี้ก็จะสู้กับแบบดุเดือดกว่าเดิมอีก มีจุดที่น่าสนใจ น่าติดตาม จนรู้สึกว่าไม่ควรพลาดชมเลย ที่สำคัญคือเขาทำภาพออกมาดีด้วยนะ สมกับเป็นอนิเมะในตำนานที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานจริงๆ และในบทความนี้เราจะไปชี้จุด 5 ความน่าสนใจใน Bleach: Thousand-Year Blood War Part 2 มันมีอะไร น่าสนใจตรงส่วนไหนบ้างมาดูกันรับชมบลีช เทพมรณะครบทุกซีซั่น คลิกเลย1. ทำไมอิชิดะหักหลังเพื่อนๆ ของเขาขอบอกก่อนว่าทางเรานั้นไม่ได้ตามอ่านมังงะเรื่องนี้ ดังนั้นเหตุผลที่อิชิดะ อุริวไปร่วมทัพกับควินซีนั้น เราก็แปลกใจอยู่เหมือนกัน ถึงเดิมทีเขาจะเป็นควินซี่และไม่ไว้ใจยมทูตก็ตาม แต่เขาก็เป็นเพื่อนที่ดีของอิจิโกะนะ ก็เลยรู้สึกสงสัยว่าเขาจะหักหลังเพื่อนได้จริงๆ หรอ หรือเขาทำไปเพราะอะไรแน่ ในแฟนด้อมก็มีหลายทฤษฎีเลย ทั้งสมมติฐานว่าเขาจำเป็นต้องยอมไปก่อน เพราะถ้าขัดขืนเขาคนเดียวก็สู้จูฮาบัชไม่ได้อยู่แล้ว แต่บางคนก็บอกว่ายังไงซะเขาก็เป็นควินซี่ เขาก็ต้องเลือกเหล่าควินซี่แหละนะ ก็ไม่รู้จริงๆ แต่ใจเราก็อยากให้เป็นแค่ทำไปเพราะความจำเป็นแล้วตลบหลังจูฮาบัชอีกที 2. บังไคที่ถูกขโมยสุดท้ายแล้วของที่ถูกขโมยไปจะสามารถคืนกลับมายังเจ้าของเดิมได้ไหม แล้วถ้ามันกลับคืนมาได้มันจะคืนมาด้วยวิธีใด จุดนี้ก็น่าติดตามเช่นกัน ส่วนนี้เราว่ามันเป็นส่วนที่ทำให้เส้นเรื่องในภาคนี้น่าสนใจนะ ว่ากันตามตรงจริงๆ แล้วบางอนิเมะที่ทำภาคแยกออกมาต่อแต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมเป็นวงกว้างก็มีอยู่นะ บางเรื่องพอทำต่อแล้วมันเป็นเนื้อเรื่องวนๆ แบบเดิมไม่ได้มีอะไรใหม่ บางเรื่องก็แค่เพิ่มตัวละคร เนิฟตัวละครเก่าและสร้างตัวร้ายใหม่อัปเลเวลสูงๆ จนดูออกทะเลไปไกลเกิน แต่สงครามเลือดพันปีนั้นเป็นเนื้อเรื่องที่ทำออกมาเพิ่ม เดินเรื่องใหม่ที่ยังคงตามเนื้อเรื่องเก่า ยังคงเป็นต่อสู้แบบเอาเป็นเอาตายระหว่างควินซี่และยมทูตแต่เพิ่มความตึงมือด้วยการขโมยบังไคของยมทูตได้ มันก็เป็นอะไรที่น่าสนใจว่าแล้วสุดท้ายยมทูตจะรับมือยังไงกันล่ะ 3. การฝึกฝนเพื่อให้ได้มาซึ่งบังไคเมื่อมีเหล่ายมทูตถูกขโมยบังไคไปเยอะ มันก็ต้องมีแหละคนที่มีความสามารถแต่ยังขัดเกลาไม่มากพอจนสามารถมีบังไคได้ แล้วในภาคนี้ตัวละครเหล่านี้ มันต้องมีสักคนแหละที่ได้มีบังไค และแน่นอนว่าตรงนี้ก็รวมถึง "ลูเคีย" ด้วย ทางเรานั้นอยากดูภาคสงครามเลือดพันปีมากๆ เพราะในภาคนี้ลูเคียจะสามารถใช้บังไคได้เป็นครั้งแรก ซึ่งภาพโปรโมทของลูเคียคือเท่และสวยมากในเวลาเดียวกัน รีวิว 5 ความประทับใจในบลีช สงครามเลือดพันปี ซีซั่น 8 บน TrueID4. พลังที่ตื่นขึ้นสำหรับในพาร์ทแรกมีคนพลังตื่นขึ้นมาแน่ๆ แล้วอยู่ 2 คนคือ "ซาราคิ เคมปาจิ" และ "อิจิโกะ" ทั้งคู่ที่ถือเป็นตัวละครที่มีพลังที่โดดเด่นอยู่มากๆ แล้ว แต่ยังปล่อยของไม่หมดมาโดยตลอด และจะได้ปล่อยของแบบไม่มียั้งในภาคนี้ มันจะดุเดือดแค่ไหนกันล่ะคะเนี่ย 5. การต่อสู้สุดมันส์พาร์ทแรกเป็นการเปิดเรื่อง บอกเล่าความเป็นมารวมถึงเฉลยปมต่างๆ ไปแล้ว พาร์ทนี้ก็เป็นพาร์ทของการต่อสู้ และจากทั้งหมดนี้ ทั้งบังไคใหม่ ดาบฟันวิญญาณใหม่ พลังที่ตื่นขึ้นมาใหม่ และลาสบอสที่ค่อนข้างจะตึงมือมากๆ เชื่อว่าสิ่งที่รออยู่ในพาร์ทนี้ก็คงจะเป็นอะไรอื่นไปไม่ได้นอกจากการต่อสู้บู้ล้างผลาญมันส์สุดๆ นั่นเอง คออนิเมะแอคชันไม่ควรพลาดเรื่องนี้อย่างแรงเลยค่ะ https://twitter.com/ewe_jpn/status/1677874275053891586?s=20 รับชมบลีช เทพมรณะครบทุกซีซั่น คลิกเลยบอกเลยว่าอนิเมะเรื่องนี้จัดเป็นอนิเมะที่คุณภาพดีมาก ทั้งเนื้อเรื่องและกราฟิกของเรื่อง ที่สำคัญเป็นอนิเมะแอคชันที่จะเสิร์ฟความมันส์ให้คุณผู้ชมอย่างแน่นอน ใครชอบแนวต่อสู้บู้ล้างผลาญต้องชมค่ะ สุดท้ายนี้หากใครที่รู้สึกชอบบทความนี้ก็สามารถแชร์ออกไปได้เลยค่ะ หรืออยากจะติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเรา ก็สามารถติดตามได้ที่ Facebook ที่เพจ Artinime หรือ twitter ที่ Artinime ค่ะhttps://twitter.com/supamas_kpr/status/1672128404332908547?s=20ขอบคุณภาพจาก @BLEACHanimation / ภาพประกอบที่ 1,2,3,4 และ ภาพปกขอบคุณ bleach thousand-year blood war trailer จาก @aniplex คอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน
หญิงเถื่อน • 11 ก.ค. 66
อ่าน
นักวิทย์ฯ อาจพบดาว “ทาทูอิน” จากหนัง Star Wars อาจมีอยู่ในชีวิตจริงของเรา
การค้นพบครั้งนี้ ถูกตีพิมพ์ผ่านวารสาร Science Advances เมื่อวันที่ 16 เมษายน ที่ระบุว่า นักวิทยาศาสตร์ อาจค้นพบดาวเคราะห์ที่ค้ลายคลึงกับ “ดาวทาทูอิน” โลกแห่งทะเลทรายที่มีอยู่ในภาพยนตร์ Star War ซึ่งถือเป็นบ้านของ ลุค สกายวอล์คเกอร์ ตัวเอกของภาพยนตร์เรื่องนี้ดาวเคราะห์ดวงนี้ อยู่ห่างจากโลกประมาณ 120 ปีแสง สิ่งที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์ มองว่า ดาวเคราะห์นี้ คล้ายกับดาวทาทูอิน คือการที่ดาวเคราะห์นี้ โคจรรอบดาวแคระน้ำตาล 2 ดวง ขณะที่ ดาวทาทูอิน มีชื่อเสียงว่า เป็นเมืองที่มีดวงอาทิตย์คู่ นั่นหมายความว่า ดาวทาทูอินนี้ โคจรรอบดาวฤกษ์ 2 ดวงด้วยเช่นกันทั้งนี้ ดาวแคระน้ำตาล มีอีกชื่อว่า ดาวฤกษ์ที่ล้มเหลว เนื่องจากเป็นวัตถุที่มีมวลมากกว่าขีดจำกัดมวลของดาวเคราะห์ แต่ก็ไม่มากพอที่จะเป็นดาวฤกษ์ แม้ว่า ดาวทั้ง 2 ดวง จะมีความสว่างน้อยกว่า ดวงอาทิตย์ แต่แนวคิดเนื่องการโคจรรอบดวงอาทิตย์ 2 ดวง ในหนัง Star War ทำให้นักวิทยาศาสตร์อดเปรียบเทียบกับดาวทาทูอินไม่ได้นอกจากนี้ เส้นทางการโคจรดาวเคราะห์ดวงนี้ ยิ่งเพิ่มความรู้สึกให้พวกเขารู้สึกเหมือนเป็นดาวเคราะห์ในนิยายวิทยาศาสตร์ เพราะว่า มันโคจรเป็นมุมแหลม 90 องศา ไม่ได้โคจรเป็นระนาบเดียวกับดาวเคราะห์อื่น ๆ ที่เราเคยเห็น “ดาวเคราะห์โคจรรอบดาวคู่เหล่านี้ เป็นตัวกระตุ้นจินตนาการ พวกมันมีอยู่ในนิยายวิทยาศาสตร์มานานหลายสิบปี ก่อนที่เราจะรู้ว่า พวกมันอาจมีอยู่ในชีวิตจริงด้วยซ้ำ และยังเป็นดาวเคราะห์ประเภทที่แตกต่างจากระบบสุริยะของเรา” โธมัส เบย์ครอฟท์ ผู้เขียนงานวิจัย กล่าว การค้นพบนี้ อาจช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการก่อตัวของดาวเคราะห์ต่าง ๆ ที่อาจอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ปกติในอนาคตได้แหล่งข้อมูลอ้างอิง:Scientists may have discovered an unusual planet, just like Luke Skywalker’s home - AP
TNN ช่อง16 • 17 เม.ย. 68
อ่าน
God of War Ragnarok เป็นเกม exclusive ที่ขายเร็วที่สุด ทำยอดทะลุ 5 ล้านแล้ว
เรียกว่าเป็นการกลับมาที่สมศักดิ์ศรี สำหรับเกมฆ่าเทพ God of War Ragnarok ที่เพียงแค่ 5 วัน ทำยอดขายไปได้ 5.1 ล้านชุด ถือว่ารวดเร็วอย่างมาก เพราะเกมวางขายแค่คอนโซลของ Sony เท่านั้น และแน่นอนว่าด้วยยอดเกิน 5 ล้านชุด ใน 5 วันทำให้มันเป็นเกม Exclusive First Party ที่ขายเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ เกมที่วางขายเกมบน PlayStation ไปแล้ว โดยยอดขายภาคที่แล้ว God of War (2018) ทำยอดขายได้ 3.1 ล้านชุดใน 3 วันแรก โดยเกมวางขายบน PlayStation 4 ในวันที่ 20 เมษายน 2018 เกม God of War Ragnarok วางขายบน PlayStation 5 และ PlayStation 4 ในวันที่ 9 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา อ้างอิง
แบไต๋ • 23 พ.ย. 65
อ่าน
รวมฉากสุดประทับใจในซีรีส์ God of War ที่หลายคนจดจำมาจนถึงตอนนี้
พอมาถึงช่วงปลายปีค่ายเกมต่าง ๆ ก็เริ่มขนเกมเกรด ‘AAA’ มาวางจำหน่ายแข่งกัน หนึ่งในนั้นก็คือเกมโล้นหนวดควงลูกหวดทวยเทพอย่าง ‘God of War Ragnarok’ ที่เมื่อตัวเกมถูกปล่อยออกมาก็ได้คะแนนวิจารณ์จากสื่อต่าง ๆ ทั่วโลกสูงจนหลายคนต่างคิดว่าเกม ‘God of War Ragnarok’ กับเกมโคตรโหดกระโดดฟันในโลกเปิดอย่าง ‘Elden Ring’ ใครจะเป็นผู้ชนะคว้ารางวัลเกมแห่งปีในคราวนี้ไป แต่กว่าจะไปถึงตรงนั้นเรามาย้อนดูเรื่องราวความน่าประทับใจของฉากต่าง ๆ ในซีรีส์ ‘God of War’ กันดีกว่า ว่ากว่าจะมาถึงตรงนี้เราได้เห็นฉากที่ยิ่งใหญ่อลังการขนาดขนยักษ์ตัวเท่าภูเขามาใส่ในเกม หรือฉากต่อสู้ที่แสนน่าประทับใจที่เราคนเล่นเห็นครั้งแรกต้องร้องอุทานออกมาว่า เกมนี้ยิ่งใหญ่สมชื่อ ‘God of War’ จริง ๆ จะมีฉากไหนจากเกมภาคใดที่สร้างความประทับใจแรกเห็น หรือฉากที่เราคนเล่นจดจำได้บ้างนั้นมาดูไปพร้อมกันเลย Cronos ปรากฏตัว จาก God of War 1 เริ่มต้นฉากแรกที่เชื่อว่าหลายคนที่ได้เล่นเกม ‘God of War’ ภาคแรกเมื่อปี 2005 ต่างต้องเคยอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ เมื่อได้เห็นฉากที่ เครโทส (Kratos) เปาแตรเรียกบางอย่างในทะเลทรายให้ค่อย ๆ ปรากฏตัวออกมา ที่ในตอนนั้นใครจะไปคิดว่าสิ่งที่ปรากฏตัวออกมานั้นจะเป็นยักษ์ไททันขนาดใหญ่ที่แบกภูเขาทั้งลูกเอาไว้ (ตัวเครโทสตัวเท่ามด) โดยยักษ์ตนนี้มีชื่อว่า โครนอส (Cronos) ผู้นำและคนสุดท้ายของเหล่าไททันที่สู้ศึกระหว่างเทพกับยักษ์ในอดีต ซึ่งเมื่อสงครามจบลงโครนอสก็ถูกจับมาจองจำที่ทะเลทรายและต้องแบกภูเขาที่มีวิหาร ‘Pandora’ อยู่บนหลัง ซึ่งผู้เล่นเกมต่างรู้สึกอึ้งทึ่งกับความยิ่งใหญ่ของยักษ์ไททันว่ามันจะใหญ่ได้ขนาดนี้เลย จนทำให้ฉากการปรากฏตัวของโครนอสกลายเป็นที่จดจำของแฟนเกมซีรีส์ ‘God of War’ ไปในทันที การต่อสู้กับ Colossus of Rhodes จาก God of War 2 เมื่อภาคแรกทำเอาหลายคนตื่นตาตื่นใจกับเหล่ายักษ์และการต่อสู้ของเทพเจ้ากันไปแล้ว พอมาใน ‘God of War 2’ ทางทีมงานก็เล่นใหญ่ขึ้นไปอีกกับการยกรูปปั้น ‘Colossus of Rhodes’ หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์มาใส่ในเกม ที่เราจะได้สู้กับรูปปั้นยักษ์ขนาดเกือบเท่ายักษ์ไททันในภาคแรกตั้งแต่ต้นเกม ที่สร้างความรู้สึกยิ่งใหญ่สมกับเกมเล่นใหญ่ไฟกระพริบแบบนี้ ที่แม้แต่คนที่ไม่เคยเล่น ‘God of War’ ภาคแรกมาก่อนพอเปิดเกมมาแล้วได้สู้กับรูปปั้นยักษ์ขนาดนี้ตั้งแต่ต้นเกม เป็นใครก็คงตาลุกวาวด้วยความประหลาดใจ และยิ่งเรารู้ว่ารูปปั้นทองเหลืองนี้เคยมีอยู่จริงก็ยิ่งสร้างความตกใจให้เรา ที่คิดว่าคนสมัยโบราณเขาเก่งมาก ๆ ที่สามารถสร้างสิ่งปลูกสร้างขนาดเทียบเท่าเทพีเสรีภาพในยุคนี้ได้ แต่สุดท้ายก็โดนเฮียโล้นที่เป็นเทพแห่งสงครามยำจนเละ ทั้งที่จะตัวเล็กกว่าแต่ก็สามารถสู้กับรูปปั้นยักษ์ได้อย่างสบาย ๆ จนฉากนี้เป็นหนึ่งในฉากที่แฟน ๆ ประทับใจไม่รู้ลืม Prison of the Damned การต่อสู้บนตัว Hecatonchires จาก God of War Ascension หลังจากที่ทีมงานเกมซีรีส์ ‘God of War’ ทำอะไรใหญ่ ๆ เยอะ ๆ มามาก ทำให้คนเล่นเกมเริ่มคุ้นเคยจนเราแทบไม่รู้สึกอะไรแล้วตอนที่เห็นเทพตัวใหญ่ ๆ หรือสู้กับยักษ์ไททันที่ก็สู้มาแล้วหลายต่อหลายครั้งจนคนเล่นไม่รู้สึกตื่นตาตื่นใจแล้ว ทางทีมพัฒนาดูเหมือนจะรู้ในข้อนี้ดี เลยจัดอะไรที่มันยิ่งใหญ่กว่าเดิมกับการต่อสู้บนตัวยักษ์ 100 แขนอย่าง เฮคาทอนชิเรส (Hecatonchires) หนึ่งในยักษ์ไททันที่ร่วมสงครามในอดีต ซึ่งเป็นหนึ่งในสามแกนนำในการโค่นล้มเทพเจ้าก่อนจะพ่ายแพ้และถูกจับขังเพื่อสร้างเป็นเรือนจำผู้ถูกสาป ‘Prison of the Damned’ ในเกม ‘God of War Ascension’ ที่พอเปิดเกมมาเราก็จะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของยักษ์ไททันตนนี้ที่มีขนาดใหญ่กว่าไททันตนอื่น ๆ หลายเท่า ซึ่งเครโทสต้องต่อสู้กับแขนของเฮคาทอนชิเรส ก่อนจะขึ้นไปยังหัวและปลิดชีพยักษ์ตนนั้นได้อย่างไม่ยากเย็น ที่ในตอนนั้นแม้คนที่เล่นเกม ‘God of War’ มาทุกภาค พอมาเห็นยักษ์ไททันร้อยแขนตนนี้เป็นใครก็อึ้งกันทุกคน งูยักษ์ Jormungandr จาก God of War ปี 2018 ยังคงวนเวียนอยู่กับความใหญ่ที่เล่นเอาคนรักงูทั้งหลายต่างขนหัวลุก กับขนาดใหญ่โตดุดันน่ากลัวของเทพงู ยอร์มุงกันเดอร์ (Jormungandr) จาก ‘God of War’ ปี 2018 ที่ถ้าใครได้ติดตามข่าวสารเกมในตอนนั้น คงจะได้เห็นพี่งูยักษ์ตนนี้ในตัวอย่างกันไปแล้ว ที่บอกเลยว่างานนี้ทีมงาน ‘Santa Monica Studio’ ก็ยังคงบ้าความใหญ่เหมือนเดิม แต่เปลี่ยนจากยักษ์มาเป็นงูแทน ที่หลายคนในตอนนั้นต่างคิดไปว่าถ้าเครโทสได้สู้กับพี่งูตนนี้คงจะน่าสนใจไม่ใช่น้อย แต่น่าเสียดายที่เราจะทำได้แค่เข้าไปในท้องพี่เขาเท่านั้น และด้วยขนาดของพี่งูยอร์มุงกันเดอร์ที่ใหญ่โตมาก ๆ จึงทำให้เราเห็นพี่เขาในฉากที่แม้จะเห็นไกล ๆ ยังตัวใหญ่ขนาดนี้ พอพี่เขามาใกล้ ๆ ยิ่งตัวใหญ่และโคตรน่ากลัวมากขึ้นไปอีก ที่ทำเอาผู้เล่นที่เคยชินกับของใหญ่ ๆ มาแล้ว ก็ยังคงอึ้งทึ่งตะลึงพรึงเพริดตระการตากับขนาดของพีเขาอยู่ดี ซึ่งเราก็หวังว่าใน ‘God of War Ragnarok’ จะมีอะไรให้เราตกใจกับขนาดอีกรึเปล่าต้องมารอดูกัน ได้ Blades of Chaos กลับมา จาก God of War ปี 2018 เปลี่ยนจากอะไรที่มันใหญ่ ๆ มาเป็นฉากที่หลายคนประทับในกันบ้าง กับการกลับมาอีกครั้งของดาบคู่ ‘Blades of Chaos’ ที่หลายคนต่างคิดว่ามันคงจะไม่กลับมาอีกแล้วในเกม ‘God of War’ ในปี 2018 ที่ตามเนื้อเรื่องของเกมภาคนี้ พี่โล้นเครโทสของเราได้ทิ้งอดีตที่ไม่น่าจดจำและหันมาสร้างเนื้อสร้างตัวมีภรรยาและลูกชาย พร้อมกับใช้อาวุธใหม่อย่างขวานคู่ใจในการต่อสู้ จนเมื่อเกมดำเนินมาถึงช่วงกลางเกมเราจะได้กลับมาที่บ้านหลังเดิมที่เครโทสอยู่กับลูกชาย ที่ในบ้านหลังนั้นได้ซ่อนดาบคู่ใจอย่าง ‘Blades of Chaos’ ที่คนเล่นเกมภาคเก่าคุ้นเคยให้กลับมาอีกครั้ง ที่ทำเอาแฟนเก่าที่เคยเล่นต่างน้ำตาไหลรินเพราะคิดถึงอดีต ที่เคยใช้ดาบโซ่คู่ใจเล่มนี้ฟาดฟันเจาะตาฉีกเนื้อตัดแขนขาศัตรูมาเป็นพัน ๆ ตัวในเกม และเราก็จะได้ใช้ดาบคู่ใจตั้งแต่ต้นเกมในภาค ‘God of War Ragnarok’ อีกด้วย ทอดทิ้งลูก The Fields of Elysium จาก God of War Chains of Olympus เมื่อพูดถึงซีรีส์ ‘God of War’ เชื่อว่าทุกคนคงจะรู้กันอยู่แล้วว่าปมใหญ่ ๆ ในชีวิตของเครโทสที่แก้ไม่หายไปจากใจ นั่นคือเรื่องราวการเสียชีวิตของครอบครัวตัวเอง ที่ในตอนนั้นเครโทสถูกเทพแห่งสงครามสะกดจิตให้ฆ่าครอบครัวตัวเองจนกลายเป็นปมในใจเรื่อยมา และพอมาถึงภาค ‘God of War Chains of Olympus’ ตัวของเครโทสเราต้องลงไปในขุมนรกและได้ไปถึง ‘The Fields of Elysium’ ซึ่งเป็นทุ่งดอกไม้ที่สวยงามที่เป็นดินแดนของคนที่ทำคุณงามความดีก็จะได้มาอยู่ในที่แห่งนี้ ที่เป็นเหมือนสวรรค์ในดินแดนนรก และที่นั่นเครโทสได้เจอกับลูกสาวของตนเป็นครั้งแรก ซึ่งในตอนนั้นเครโทสต้องเลือกระหว่างหน้าที่ในการไปแก้ไขปัญหาที่จะส่งผลต่อโลก หรือจะเลือกอยู่ในนรกกับลูกสาวต่อไป กับการกดปุ่ม “O” เพื่อผลักไสลูกสาวที่มากอดตนด้วยความรู้สึกชอกช้ำและต้องลาจากลูกสาวอีกครั้ง โดยมีเสียงร้องด้วยความเสียใจของลูกอยู่ข้างหลัง ฉากนี้จึงเป็นหนึ่งในฉากที่แฟน ๆ เกมสะเทือนใจจนคนเล่นเกมซีรีส์นี้จดจำได้ไม่รู้ลืม ชื่อที่แท้จริงของ Atreus จาก God of War ปี 2018 อีกหนึ่งฉากสุดประทับใจในภาค ‘God of War’ เมื่อปี 2018 นั่นคือการเฉลยเรื่องราวในเกม ที่ในตอนแรกนั้นตัวเกมภาคนี้ไม่ได้บอกอะไรเราเลย ว่าการเดินทางในครั้งนี้ของสองพ่อลูกคืออะไร แล้วมันเกี่ยวอะไรกับทวยเทพที่มาตามล่า เพราะเมื่อดูจากเนื้อเรื่องก็แทบไม่มีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรที่ยิ่งใหญ่เลย ก็เป็นแค่ชายหัวโล้นหนีคดีกับเด็กชายบอย ที่ออกเดินทางเอาเถ้ากระดูกภรรยาและแม่ของตนมาโปรยที่ยอดเขาที่สูงที่สุดเท่านั้น แต่ก่อนออกเดินทางของสองพ่อลูกก็มีเทพเจ้ามาขัดขวางการเดินทางครั้งนี้ ซึ่งเรามาทราบภายหลังว่าคนที่ส่งเทพมาขัดขวางก็คือเทพเจ้าค้อนสายฟ้า ธอร์ (Thor) เป็นคนอยู่เบื้องหลัง จนคนเล่นทุกคนต่างงุนงงว่าจะมาตามล่าสองพ่อลูกทำไม ซึ่งทุกคนในตอนนั้นต่างคิดว่าเป้าหมายของธอร์คือเครโทสอย่างแน่นอน เพราะเมื่อพี่แกฆ่าเทพฝั่งนั้นมาหมดเทพฝั่งนี้ก็คงไม่รอดเลยต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม (นั่นคือสิ่งที่แฟน ๆ คิดก่อนได้เล่นเกม) แต่พอตอนท้ายเกมเมื่อเรื่องราวเฉลยออกมาว่าชื่อที่แท้จริงของ เอเทรียส (Atreus) หรือบอยที่เรารู้จักนั้น ความจริงแล้วเขามีชื่อว่า โลกิ (Loki) ที่เป็นน้องชายของธอร์ตามตำนาน ที่เมื่อทุกอย่างเฉลยออกมาทุกคนต่างก็ขนลุกขึ้นมาทันที เพราะเมื่อเราประมวลทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดตั้งแต่ต้นเกมจนมาถึงตอนจบ ทุกอย่างก็เข้าที่ลงตัวพอดีว่าเหตุใดธอร์ถึงส่งลูกและคนอื่น ๆ มาล่าสองพ่อลูก เพราะตัวของโลกิจะเป็นกุญแจทำให้เกิดมหาสงคราม ‘Ragnarok’ นั่นเอง เมื่อเป็นการนั้นฉากการเฉลยชื่อของเอเทรียสจึงเป็นที่ประทับใจของแฟน ๆ เกม ฉาก สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม หมุนซ้าย ควงขวา กากบาท วงกลม จาก God of War 1-3 ปิดท้ายกับฉากสุดประทับใจที่แฟนเกมซีรีส์ ‘God of War’ ต่างค่อนข้างจะโอเคกับสิ่งนี้ กับฉากการกด ‘Quick Time Event’ สั้น ๆ ตามฉากที่มีสาว ๆ มารอพี่โล้นเราให้ไปเพิ่มพลังก่อนออกไปสู้รบในฉากต่อไป โดยเราจะได้เห็นภาพของสาว ๆ นุ่งน้อยห่มน้อยมายั่วเครโทสให้ไปหา ก่อนจะมีการตัดฉาก (แต่มีเสียง) พร้อมการกดปุ่ม สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม หมุนซ้าย ควงขวา กากบาท วงกลม ที่แต่ละภาคก็จะมีการกดที่ต่างกันไปที่แฟนซีรีส์นี้จะทราบกันดี แต่ก็น่าเสียดาย (รึเปล่า) ที่ใน ‘God of War’ ภาคหลัง ๆ ได้ตัดพวกนี้ออกไป ที่ถึงแม้ฉากเหล่านี้ในภาคหลัง ๆ จะไม่มี แต่ฉากการกด ‘Quick Time Event’ กับสาว ๆ ในภาคเก่า ๆ ก็เป็นที่ประทับใจให้แฟน ๆ ‘God of War’ ไม่รู้ลืมตลอดไป เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 8 ฉากสุดประทับใจที่แฟน ๆ เกมซีรีส์โล้นซ่าฆ่าทวยเทพ ‘God of War’ ชื่นชอบจดจำและประทับใจในครั้งแรกที่เห็นหวังว่าจะถูกใจกัน ซึ่งถ้าเราข้ามฉากไหนตอนใดที่คุณ ๆ ประทับใจก็เอามาบอกเล่ากันได้ เพราะฉากที่เราเอามานำเสนอนั้นก็เป็นหนึ่งในไม่กี่ฉากจากซีรีส์ ‘God of War’ ที่มีเกือบ 10 ภาคที่แฟน ๆ ทั่วโลก (บางส่วน) ลงความเห็นว่าเป็นฉากที่น่าประทับใจ และเราก็หวังว่าใน ‘God of War Ragnarok’ ที่วางจำหน่ายในวันที่ 9 พฤศจิกายนจะมีฉากเหล่ายิ่งใหญ่สุดประทับใจแบบนี้ให้เราได้ชมกันอีก ใครที่สนใจก็ไปเตรียมตัวกันได้บนเครื่อง ‘PlayStation 4-5’ ส่วนชาว ‘PC’ ก็คงต้องรออีกยาว ๆ กว่าจะลง ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรในวงการเกมก็รอติดตามกันได้ที่นี่ที่เดียว รับรองว่าคุณจะไม่พลาดข่าวสารวงการเกมแน่นอน เพราะที่แบไต๋มีครบทุกความบันเทิงเพื่อคุณ
แบไต๋ • 6 พ.ย. 65
ดูเพิ่มเติม